หากคุณต้องการแก้ไขคีย์รีจิสทรีใน Windows และคุณได้รับข้อผิดพลาด "Access is Denied" แสดงว่าคีย์รีจิสทรีได้รับการปกป้องโดย Windows ในกรณีนี้และเพื่อแก้ไขปัญหา คุณต้อง (ก่อน) เป็นเจ้าของคีย์รีจิสทรีนั้น จากนั้นจึงกำหนดสิทธิ์แบบเต็มให้กับบัญชีผู้ใช้ของคุณที่คีย์นั้น
คู่มือนี้ประกอบด้วยขั้นตอนทั้งหมดที่จำเป็นในการกำหนดสิทธิ์แบบเต็มบนรีจิสตรีคีย์ที่ได้รับการป้องกันโดยระบบ ในระบบปฏิบัติการ Windows 10, 8/8.1 หรือ 7
วิธีการเป็นเจ้าของและกำหนดสิทธิ์แบบเต็มให้กับคีย์รีจิสทรี (แก้ไขข้อผิดพลาด "ACCESS DENIED" ใน Registry)
1. ก่อนอื่น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เข้าสู่ระบบ Windows โดยใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ
2. เปิด Registry Editor:ในการทำเช่นนั้น:
1.กดปุ่ม Windows . พร้อมกัน + ร ปุ่มเพื่อเปิดกล่องคำสั่งเรียกใช้
2. พิมพ์ regedit แล้วกด Enter .
3. ที่บานหน้าต่างด้านซ้าย ให้ไปที่รีจิสตรีคีย์ที่คุณต้องการแก้ไขการอนุญาต (เป็นเจ้าของ/กำหนดสิทธิ์การควบคุมทั้งหมด)
4. (สำคัญ): ก่อนที่คุณจะดำเนินการต่อ ให้สำรองข้อมูลการตั้งค่าปัจจุบันของรีจิสตรีคีย์ก่อน แล้วจึงใช้ไฟล์สำรองหากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ในการทำเช่นนั้น:
1. คลิกขวาที่คีย์รีจิสทรีแล้วเลือก ส่งออก .
2. พิมพ์ชื่อไฟล์สำหรับไฟล์สำรองรีจิสทรีและ บันทึก ไฟล์ที่ เดสก์ท็อป . ของคุณ . *
* หมายเหตุ:หากจำเป็น ให้ดับเบิลคลิกที่ไฟล์ .reg ที่ส่งออก เพื่อคืนค่ารีจิสทรีของคุณกลับคืนมา!
5. คลิกขวาที่คีย์รีจิสทรีแล้วเลือกสิทธิ์ …
6. ที่หน้าต่าง 'การอนุญาต' คลิก ขั้นสูง
7. คลิก เปลี่ยน เจ้าของที่จะเป็นเจ้าของคีย์รีจิสทรี
8. พิมพ์ ผู้ดูแลระบบ และกด ตกลง *
* หมายเหตุ:หากคุณต้องการให้สิทธิ์แบบเต็มแก่บัญชีผู้ใช้ของคุณเท่านั้น ให้พิมพ์ชื่อบัญชีของคุณลงในช่อง
9. ตรวจสอบ แทนที่เจ้าของในคอนเทนเนอร์ย่อยและวัตถุ ช่องทำเครื่องหมายและคลิก ใช้ .
10. จากนั้นดับเบิลคลิกเพื่อเปิด ผู้ดูแลระบบ เข้า.
11. เลือก การควบคุมทั้งหมด ช่องทำเครื่องหมายเพื่อให้สิทธิ์เต็มรูปแบบกับบัญชีที่เลือกและกด ตกลง สามครั้ง (3)
12. แค่นั้นแหละ! จากนี้ไปคุณจะมีสิทธิ์ควบคุมแบบเต็มสำหรับรีจิสตรีคีย์นี้โดยเฉพาะ
แค่นั้นแหละ! แจ้งให้เราทราบหากคู่มือนี้ช่วยคุณโดยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประสบการณ์ของคุณ โปรดกดไลค์และแชร์คู่มือนี้เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น