Computer >> คอมพิวเตอร์ >  >> ระบบเครือข่าย >> VPN

แอปมือถือและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล – แอปทั้งหมดแชร์ข้อมูลหรือไม่

คุณสะดวกที่จะแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่คุณซื้อ ที่ที่คุณไป สิ่งที่คุณทำ รวมถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถระบุตัวตนได้ ?

ไม่มีสิทธิ์? แล้วทำไมต้องแชร์ทุกอย่างกับแอพที่เราใช้? ในการตอบคำถามนี้ บางคนอาจบอกว่าเป็นข้อกำหนดเบื้องต้นในการใช้แอป ขณะที่คนอื่นๆ อาจบอกว่าไม่ทราบถึงข้อผิดพลาด

จากที่กล่าวมา ให้ฉันบอกคุณว่าแอปเกือบทั้งหมดที่คุณใช้ แบ่งปันข้อมูลกับบุคคลที่สาม หรือเก็บไว้เพื่อการใช้งานส่วนตัวของพวกเขา

ผู้ใช้สมาร์ทโฟนโดยเฉลี่ยในปัจจุบันมีแอปติดตั้งอยู่ในโทรศัพท์ของตนระหว่าง 60-90 แอป


น่าประหลาดใจ! อย่าเป็นสถิติที่น่าตกใจที่สุดว่าแอปใดที่แชร์ข้อมูลมากที่สุดและสิ่งที่พวกเขาแชร์นั้นยังมาไม่ถึง

ขณะที่คุณอ่านเพิ่มเติม เราจะบอกได้ว่าแอปใดแชร์ข้อมูลมากที่สุดและทำให้คุณเสี่ยงภัย

แอปมือถือส่วนใหญ่มีให้บริการฟรีแต่มีราคาสูง:รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อใช้งานส่วนตัว และขายให้กับบุคคลที่สาม ไม่ว่าพวกเขาจะชอบอะไรก็ตาม

แอป 92% ที่มีอยู่ใน App Store และ 96% ของแอปที่มีใน Google Play Store นั้นฟรี

เหตุใดแอปจึงรวบรวมข้อมูล &ข้อมูลประเภทใดที่เก็บรวบรวม

การศึกษาต่างๆ แสดงให้เห็น 80 เปอร์เซ็นต์ ของแอพรวบรวมข้อมูลของผู้ใช้เพื่อทำการตลาดผลิตภัณฑ์ของตนภายในแอพและอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงการแสดงโฆษณาหรือการโปรโมตการซื้อในแอป

สองแอพที่ติดอันดับคือ Facebook และ Instagram . ทั้งสองบริการใช้ข้อมูลผู้ใช้ 86% เช่น วันเกิดและอื่นๆ เพื่อขายผลิตภัณฑ์ของตนและแสดงโฆษณาที่เกี่ยวข้องในนามของผู้อื่น

ความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันระหว่างแอปช่วยให้แอปรวบรวมข้อมูลผู้ใช้จากบัญชีโซเชียลมีเดีย

ข้อมูลที่รวบรวมโดยบุคคลที่สามผ่านแอปสมาร์ทโฟน ได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถระบุตัวตนได้ เช่น อายุ เพศ สถานที่ ชื่อผู้ใช้ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเราเตอร์ Wi-Fi ในบริเวณใกล้เคียง รายละเอียดโทรศัพท์ และข้อมูลเกี่ยวกับทุกแอปที่ติดตั้งในโทรศัพท์ของคุณ

ข้อมูลประเภทใดที่แชร์กับแอปบ่อยที่สุด (ในแง่ของเปอร์เซ็นต์)

48% ของแอป iOS และ 44% ของแอป Android พบการแชร์อีเมล (ในบริบทของแอพ Android ตัวเลขนี้อาจสูงขึ้นได้เนื่องจากบางแอพใช้ Facebook Graph API (อันที่ Cambridge Analytica ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้ Facebook 87 ล้านคน) ซึ่งหมายความว่าอาจมีการแชร์ที่อยู่อีเมลกับพวกเขาด้วย)

  • 33% ของแอป iOS และ 30% ของแอป Android พบชื่อผู้ใช้ที่แชร์
  • 12% ของแอป iOS และ 9% ของแอป Android พบการแชร์หมายเลขโทรศัพท์
  • 4% ของแอป iOS และ 5% ของแอป Android พบการแชร์ที่อยู่ของผู้ใช้
  • 29% ของแอป iOS และ 47% ของแอป Android ได้รับการผสานรวมกับบริการของ Google แล้ว
  • 26% ของแอป iOS และ 41% ของแอป Android ได้รับการผสานรวมกับบริการ Facebook Graph API แล้ว

ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจเกี่ยวกับแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่และความเป็นส่วนตัวของข้อมูล

คุณรู้หรือไม่ว่า Apple เป็นที่รู้จักในด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลขอให้นักพัฒนาแอปขออนุญาตผู้ใช้ในการแชร์ข้อมูลข้ามแอปพลิเคชัน หากแอปไม่เป็นไปตามข้อกำหนดนี้ แอปนั้นจะถูกไล่ออกจาก App Store  

จากที่กล่าวมา เราจะวางใจบริษัทที่วางป้ายโฆษณาในลาสเวกัสว่า "จะเกิดอะไรขึ้นกับ iPhone ของคุณ ให้อยู่บน iPhone ของคุณ"

เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์นี้ดีขึ้น และเพื่อดูว่าแอปต่างๆ ใช้ข้อมูลอย่างไร เราจึงได้ศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวที่อัปเดตของ Apple . แน่นอนว่าข้อกำหนดใหม่นี้อนุญาตให้ผู้ใช้เพิกถอนการเข้าถึงของแอปได้ แต่เพื่อให้แอปทำงานได้อย่างถูกต้องต้องได้รับอนุญาตทั้งหมด ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้จะต้องอนุญาตโดยเต็มใจหรือไม่เต็มใจ

45% ของแอป Android ยอดนิยมและ 25% ของแอป iOS ยอดนิยมขอสิทธิ์ในการติดตามตำแหน่ง กล้องของอุปกรณ์ บันทึกการโทร และข้อความ SMS

แอปทั่วไปสามารถแชร์ข้อมูลของคุณกับบุคคลที่สามได้ในขณะที่1 ใน 5 แอป แบ่งปันกับผู้รับมากกว่า 20 คน .

จากที่กล่าวมา แอพไหนเก็บข้อมูลได้เยอะที่สุด? แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับข้อมูลที่รวบรวมมา?

ตามที่คาดไว้ ครึ่งหนึ่งของแอปคือ 52% ของแอปที่ทดสอบ แบ่งปันข้อมูลเพื่อการโฆษณาที่ตรงเป้าหมาย

นี่คือรายการแอพที่มีเปอร์เซ็นต์ของข้อมูลที่รวบรวม

การอนุญาตแอปที่เสี่ยงที่สุด

นอกจากการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบางแอปได้ แอปคุณลักษณะจะขอให้ผู้ใช้ให้สิทธิ์อุปกรณ์เคลื่อนที่บางอย่าง เห็นได้ชัดว่าอาจดูโอเค แต่การอนุญาตเหล่านี้มีความเสี่ยงที่สุด

  • การอนุญาตกล้องของอุปกรณ์

25% ของแอป iOS และ 46% ของแอป Android ขอสิทธิ์การเข้าถึงกล้อง

  • การติดตามตำแหน่ง

25% ของแอป iOS และ 45% ของแอป Android ขอสิทธิ์เข้าถึงตำแหน่ง

  • การบันทึกเสียง

9% ของแอป iOS และ 25% ของแอป Android ขออนุญาติบันทึกเสียง

  • อ่านข้อความ SMS และบันทึกการโทร

15% ของแอป Android ขอสิทธิ์เข้าถึงตำแหน่งในขณะที่ 10% ขออนุญาตเข้าถึงบันทึกการโทร

หมายเหตุ:iOS ไม่รองรับการขออนุญาตสำหรับ SMS และบันทึกการโทร

ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ

iOS ของแอป Android ส่วนใหญ่ไม่ได้ขอสิทธิ์ความเสี่ยงดังกล่าว สิ่งนี้ทำให้คิ้วขมวดและมีคำถามว่าเหตุใดจึงขอสิทธิ์เหล่านี้ในเวอร์ชัน Android ไม่ใช่ในเวอร์ชัน iOS

คุณมีความคิดเห็นอย่างไร

แอปภายใต้กล้องจุลทรรศน์

  • อินสตาแกรม
  • เฟสบุ๊ค
  • LinkedIn
  • UberEats
  • รถไฟ
  • YouTube
  • YouTube Music
  • Amazon
  • Google

Percentage of Personal Data Collected by Apps and Shared with Third Parties

If I say, social media apps like Facebook, Instagram, and YouTube collect the most data, you won’t be surprised, right? But if I say mental health apps also share data, then?

Does this come as a surprise?

Well, it does!

Know more about these apps by reading the study done by Consumer Reports, which discloses information about seven mental health apps found sharing user data.

Do you know how apps collect personal data?

Well, the answer is simple, users willingly share their data. When it comes to social media to get personalized recommendations it is done. While in the case of mental health apps to get telehealth appointments, and assistance personal details are shared.

Information is shared and device permissions are enabled with the user’s consent.

Percentage Wise – Top apps Sharing information with third parties

  • Instagram collects 79% of personal data
  • Facebook collects 57% of personal data
  • LinkedIn collects 0% of personal data
  • UberEats collects 50% of personal data
  • Trainline, YouTube, and YouTube Music each of these apps collect 43% of personal data.

In addition to this, Looking at the above data, it’s evident that Instagram is the winner, followed by its parent company Facebook. But do you know what data Instagram shares?

The 79% of personal data collected and shared by Instagram to third parties include – purchase details, browsing history, personal data, and so on. This is the reason why you see more personalized content on Instagram.

Alongside sharing information with third parties, these social media apps collect personal data for their personal use. This is certainly done to show advertisements but there’s a bright side to it. Sometimes due to this, you get special discount codes on your special occasions.

But are you willing to sacrifice your data for a discounted coupon code?

If not, and are looking for ways to protect yourself from being tracked online using a VPN. Using a Virtual Private Network you can not only hide location, IP address, browse anonymously but can also unblock geo-restricted data.

For Windows users, our recommendation is Systweak VPN. However, if you are looking for a multi-platform VPN check our post on the Best VPN services that help keep your privacy intact.

แอปมือถือและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล – แอปทั้งหมดแชร์ข้อมูลหรือไม่

แอปมือถือและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล – แอปทั้งหมดแชร์ข้อมูลหรือไม่

Most invasive apps

After knowing about the top apps that collect and share your data, are you eager to find out the biggest culprits? Yes!

Well, if you say social media apps are the most invasive ones, it won’t be hyperbole. You are right, 40% of the top invasive apps comprise social media platforms .

Top invasive apps:

  • Instagram (62% of personal data tracked)
  • Facebook (55% of personal data tracked)
  • Uber Eats (50% of personal data tracked)
  • Trainline (43% of personal data tracked)
  • eBay (40% of personal data tracked)
  • LinkedIn (40% of personal data tracked)
  • Twitter (40% of personal data tracked)
  • YouTube (36% of personal data tracked)
  • YouTube Music (36% of personal data tracked)
  • Grubhub (36% of personal data tracked)

Does this mean, none of the apps are safe to use? Will all the apps we use steal data?

Well no, there are certain safe apps. Though the list is not as extensive as the ones that collect data, yet apps that don’t collect data exist.

The safest apps

With the personal data-hungry apps out there, here’s the list of safest apps.

  • Netflix
  • Microsoft Teams
  • Google Classroom
  • Shazam
  • Etsy
  • Skype
  • Telegram
  • Boohoo
  • Zoom (even after being in the limelight for security reasons, it has made it to the list.)

Out of these apps Signal, Clubhouse, Telegram are some that are quite proactive when it comes to users’ data protection.

Mobile App Statistics You Should Know –

  • When WhatsApp updated its privacy terms this year, a lot of influx was noticed in Signal and Telegram users.
  • Nearly 90% of mobile internet time is spent on apps
  • Currently, more than 2.9 million apps are available in the Google Play Store, while 4.4 million apps are on Apple App Store.
  • More than 100,000 new Android apps are released monthly on Google Play Store, while 30,000 new iOS apps are released monthly on App Store.
  • 204 billion apps were downloaded in 2019’ and this number continues to grow.
  • Google owns the majority of mobile apps on the market.
  • Facebook Messenger is the most downloaded app worldwide while WhatsApp tops the chart as the app with the most active users.

Guarding your privacy

How to Avoid granting unnecessary permissions?

Keep the following points in mind before installing an app:

  1. Thoroughly read all the permissions required by the app, if you think they are unnecessary never allow them.
  2. Always ask a question why the app required asked permissions. If the permissions seem too intruding, ask yourself is it a way to collect personal information?
  3. Read privacy policy. In case you are unable to find it or determine what data the app might collect and share, avoid installing the app.

After the app is installed

If you are running an app without checking what permissions it is using, you need to go to app settings and check app permissions.

Android users can do so by heading to Settings> Permissions or App Permissions.

Note:Sometimes removing permissions might make an app unfunctional. If this happens, remember the app is poorly designed.

Now It’s Your Turn!

Are you Up for Discussions?

Do share your opinion on these questions and let us know your take

Is it only the mobile apps that track you ? or are trackers everywhere?

What do you think, what all information can smartphone apps disclose about users?

Why do apps collect data? Is it to earn money or track users?

How to Keep personal information protected?

1. Read the privacy policy of each app and social network you use.

2. Avoid signing into an app using social networking or a Google account. In case for the ease of use and to avoid remembering passwords you do so, check what type of data the app might fetch from social networking sites.

To securely save passwords and to generate strong passwords, you can use a password manager. We recommend using TweakPass – the best password manager that not only helps generate random passwords but also offers a secure vault.

3. If you like signing up using social networking sites or Google be vary of the information you provide on these sites.

4. Before posting a link, picture, or any data on social networking sites, ask yourself do you want networking sites to have all this information about you?

Ways to check what apps are using data from Facebook and Google?

On Facebook: 

1. Open your Facebook account

2. Click the small down arrow> Settings &privacy

แอปมือถือและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล – แอปทั้งหมดแชร์ข้อมูลหรือไม่

3. Settings> Apps and websites from the left pane

แอปมือถือและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล – แอปทั้งหมดแชร์ข้อมูลหรือไม่

4. Here, you will see the apps accessing data. If you want, you can remove the apps or edit the permissions.

แอปมือถือและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล – แอปทั้งหมดแชร์ข้อมูลหรือไม่

Note:Removing an app doesn’t mean all the data it already has will be erased. To get that done, you will have to contact the respective app provider.

แอปมือถือและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล – แอปทั้งหมดแชร์ข้อมูลหรือไม่

To check apps using data from your Google Account, follow these steps:

  1. Visit https://myaccount.google.com/permissions
  2. Review third-party apps that have access to Google account and edit the permissions.

This way, you can keep your data secure.

User Needs to Take The Action

Remember – Each app installed on your smartphone is a potential spy, knowingly or unknowingly you share a lot of data with them, thus allowing them to know a lot about your life and invading your data privacy. So, always be attentive to the apps you install and the data permissions you grant access too.

If the apps you are using are helping you out, it’s great. But this doesn’t mean you can blindly trust them. Take some time to find out what you are sharing and how it’s used.

Hopefully, in the coming months or even years companies will change their policies, but for now, to keep data secure try implementing these points.

It’s up to the user to ask if these permissions are essential for an app to function properly?

When downloading any app from either App Store or Google Play Store view the privacy policy . If you are an iOS user, tap See Details under the App Privacy section while Android users need to open the app and look for the Developer section in the app details page, then select Privacy Policy.

Note:Some apps provide a link to their privacy policy on their app store page as well. You can also check up on apps you already downloaded in the App Store.

To opt-out of some type of data collection, head to Settings.

Alongside, make sure you do not install unnecessary apps as they can collect data and take unwanted space. Download apps only from official stores as these apps undergo security and quality checks that others don’t. Lastly, keep a check on app permissions.

Hope you find the article interesting please share your feedback in the comments section.