มาดูขั้นตอนในการจบโปรแกรมกัน
- เริ่มต้นอาร์เรย์
- ทำให้เลขศูนย์ทั้งหมดในอาร์เรย์เป็น -1
- มีแผนที่เป็นแผนที่ว่างเพื่อจัดเก็บดัชนีก่อนหน้า
- เริ่มต้นผลรวมเป็น 0, ความยาวสูงสุดเป็น 0 และสิ้นสุดดัชนีเป็น -1
- เขียนลูปที่วนซ้ำจนถึง n.
- เพิ่มองค์ประกอบปัจจุบันเพื่อรวม
- ถ้าผลรวมเท่ากับ 0
- อัปเดตความยาวสูงสุดด้วย i + 1
- และลงท้ายด้วยดัชนี i.
- หากผลรวมมีอยู่ในแผนที่ผลรวมก่อนหน้าและ i - PreviousIndexes[sum] มากกว่าความยาวสูงสุด
- อัปเดตความยาวสูงสุดและดัชนีสิ้นสุด
- อย่างอื่นเพิ่มผลรวมในแมปดัชนีก่อนหน้า
- พิมพ์ดัชนีเริ่มต้น endingIndex - maxLength + 1 และสิ้นสุดดัชนี endingIndex
ตัวอย่าง
มาดูโค้ดกันเลย
#include <bits/stdc++.h> using namespace std; void findTheSubArray(int arr[], int n) { unordered_map<int, int> previousIndexes; int sum = 0, maxLength = 0, endingIndex = -1; for (int i = 0; i < n; i++) { arr[i] = arr[i] == 0 ? -1 : 1; } for (int i = 0; i < n; i++) { sum += arr[i]; if (sum == 0) { maxLength = i + 1; endingIndex = i; } if (previousIndexes.find(sum) != previousIndexes.end()) { if (maxLength < i - previousIndexes[sum]) { maxLength = i - previousIndexes[sum]; endingIndex = i; } }else { previousIndexes[sum] = i; } } cout << endingIndex - maxLength + 1 << " " << endingIndex << endl; } int main() { int arr[] = { 1, 1, 0, 0, 0, 1, 1, 1, 0 }; findTheSubArray(arr, 9); return 0; }
ผลลัพธ์
หากคุณเรียกใช้โค้ดด้านบน คุณจะได้ผลลัพธ์ดังต่อไปนี้
1 8
บทสรุป
หากคุณมีข้อสงสัยใดๆ ในบทแนะนำ โปรดระบุในส่วนความคิดเห็น