Computer >> คอมพิวเตอร์ >  >> การเขียนโปรแกรม >> C++

โปรแกรมค้นหาผลรวมของความยากลำบากขั้นต่ำในการทำงานให้เสร็จภายใน k วันใน C++


สมมติว่าเรามีรายการตัวเลขที่เรียกว่างานและอีกค่าหนึ่งคือ k ตอนนี้เราต้องการทำงานทั้งหมดให้เสร็จภายใน k วันที่ต่างกัน งานจะต้องดำเนินการตามลำดับที่กำหนดและในแต่ละวันเราต้องทำงานให้เสร็จหนึ่งงาน ความยากของงาน i ถูกเก็บไว้ที่งาน[i] และความยากในการกรอกรายการงานในหนึ่งวันจะเป็นงานที่ยากที่สุดที่ทำในวันนั้น ดังนั้นเราจึงต้องหาผลรวมขั้นต่ำของความยากลำบากในการทำงานในช่วง k วันที่แตกต่างกัน

ดังนั้น ถ้าอินพุตเหมือนกับงาน =[2, 3, 4, 6, 3] k =2 ผลลัพธ์จะเป็น 8 ตอนแรกเราทำ [2] แล้วทำ [3, 4, 6, 3] ความยากคือ 2 + สูงสุด (3, 4, 6, 3) =8

เพื่อแก้ปัญหานี้ เราจะทำตามขั้นตอนเหล่านี้ -

  • กำหนดอาร์เรย์ dp ขนาด:505 x 15
  • กำหนดฟังก์ชัน dfs() ซึ่งจะเริ่มต้น k และอาร์เรย์ v
  • ถ้า start>=ขนาดของ v แล้ว −
    • ผลตอบแทน (ถ้า k เหมือนกับ 0, แล้ว 0, มิฉะนั้น inf)
  • ถ้า k <0 แล้ว −
    • ผลตอบแทน
  • ถ้า dp[start, k] ไม่เท่ากับ -1 แล้ว −
    • ส่งคืน dp[start, k]
  • ret :=inf
  • ค่า :=0
  • สำหรับการเริ่มต้น i :=start เมื่อ i
  • val :=สูงสุดของ val และ v[i]
  • ret :=ขั้นต่ำของ ret และ (val + dfs(i + 1, k - 1, v))
  • dp[start, k] =ยกเลิก
  • คืนสินค้า
  • จากวิธีหลัก ให้ทำดังนี้ -
  • เติม dp ด้วย -1
  • ส่งคืน dfs(0, k, งาน)
  • ตัวอย่าง (C++)

    ให้เราดูการใช้งานต่อไปนี้เพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้น -

    #include <bits/stdc++.h>
    using namespace std;
    const int inf = 1e6;
    int dp[505][15];
    int dfs(int start, int k, vector <int>& v){
       if(start >= v.size()){
          return k == 0 ? 0 : inf;
       }
       if(k < 0)
          return inf;
       if(dp[start][k] != -1)
          return dp[start][k];
       int ret = inf;
       int val = 0;
       for(int i = start; i < v.size(); i++){
          val = max(val, v[i]);
          ret = min(ret, val + dfs(i + 1, k - 1, v));
       }
       return dp[start][k] = ret;
    }
    int solve(vector<int>& jobs, int k) {
       memset(dp ,-1, sizeof dp);
       return dfs(0, k, jobs);
    }
    int main(){
       vector<int> v = {2, 3, 4, 6, 3};
       int k = 2;
       cout << solve(v, k);
    }

    อินพุต

    {2, 3, 4, 6, 3}, 2

    ผลลัพธ์

    8