ในปัญหานี้ เราได้รับอาร์เรย์ arr[] ของจำนวนเต็ม n ตัว งานของเราคือสร้างโปรแกรมเพื่อค้นหาขนาดสูงสุดของอาร์เรย์ย่อยที่ตรงตามเงื่อนไขที่กำหนด
คำอธิบายปัญหา − เราต้องหาความยาวของ subarray ที่ใหญ่ที่สุดที่ตรงตามเงื่อนไขด้านล่าง
-
arr[k]> arr[k+1] ถ้า k เป็นเลขคี่ และ arr[k]
-
arr[k]
arr[k+1] ถ้า k เป็นเลขคู่ สำหรับองค์ประกอบทั้งหมดของอาร์เรย์ย่อย
โดยที่ k คือดัชนีขององค์ประกอบของอาร์เรย์ย่อยใน arr[]
มาดูตัวอย่างเพื่อทำความเข้าใจปัญหากัน
อินพุต
arr[] = {7, 3, 1, 5, 4, 2, 9}
ผลลัพธ์
4
คำอธิบาย
The subarray {3, 1, 5, 4} satisfies the condition 1. k = 1(odd), arr[k] > arr[k+1], 3 > 1 k = 2(even), arr[k] < arr[k+1], 1 < 5 k = 3(odd), arr[k] > arr[k+1], 5 > 4
แนวทางการแก้ปัญหา
จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่าเงื่อนไขใด ๆ ที่เป็นจริง อาร์เรย์ย่อยควรมีองค์ประกอบอื่นที่มากกว่า-เล็กกว่า เช่น ถ้าที่ 1> 2 แล้ว 2> 3 เป็นต้น
ตอนนี้ เพื่อความสะดวกในการคำนวณ เราจะสร้างอาร์เรย์ความสัมพันธ์ที่ระบุความสัมพันธ์นี้ ต่อไปนี้เป็นวิธีที่เราจะปรับแต่งอาร์เรย์ความสัมพันธ์
If arr[i] == arr[i + 1],relArr[i] = ‘E’ If arr[i] > arr[i + 1],relArr[i] = ‘G’ If arr[i] < arr[i + 1],relArr[i] = ‘S’
การใช้อาร์เรย์นี้ทำให้เราสามารถค้นหาขนาดอาร์เรย์ย่อยสูงสุดได้อย่างง่ายดาย Subarray ที่จะพิจารณาจะมี 'G' และ 'S' สำรอง
ตัวอย่าง
โปรแกรมเพื่อแสดงการทำงานของโซลูชันของเรา
#include<iostream> using namespace std; char findRel(int a, int b) { if(a > b) return 'G'; else if(a < b) return 'S'; return 'E'; } int calcMaxSubArray(int arr[], int n) { int maxLen = 1; int len = 1; char c = findRel(arr[0], arr[1]); for(int i = 1; i <= n−1; i++){ if(c == 'S' && findRel(arr[i], arr[i + 1]) == 'G') len++; else if(c == 'G' && findRel(arr[i], arr[i + 1]) == 'S') len++; else { if(maxLen < (len + 1)) maxLen = (len + 1); len = 1; } c = findRel(arr[i], arr[i+1]); } return maxLen; } int main() { int arr[] = {7, 3, 1, 5, 4, 2, 9}; int n = sizeof(arr) / sizeof(arr[0]); cout<<"The maximum size of sub−array that satisfies the given condition is "<<calcMaxSubArray(arr, n); }
ผลลัพธ์
The maximum size of sub-array that satisfies the given condition is 4