สมมติว่าเรามีตัวเลข ตัวเลขถือได้ว่าเป็นผลคูณของปัจจัย ดังนั้น 8 =2 x 2 x 2; =2 x 4 เราต้องสร้างฟังก์ชันหนึ่งที่ใช้จำนวนเต็ม n และคืนค่าตัวประกอบที่เป็นไปได้ทั้งหมด
ดังนั้น หากอินพุตเท่ากับ 12 เอาต์พุตจะเป็น [[2, 6], [2, 2, 3], [3, 4]]
เพื่อแก้ปัญหานี้ เราจะทำตามขั้นตอนเหล่านี้ -
-
กำหนดฟังก์ชัน Solve() ซึ่งจะใช้เวลา n, target, start
-
กำหนดรายชื่อหนึ่งรายการที่เรียกว่า ret
-
ถ้า n เท่ากับ 1 แล้ว −
-
รีเทิร์น
-
-
ถ้า n ไม่เท่ากับเป้าหมาย −
-
ใส่ n ต่อท้าย ret
-
-
สำหรับการเริ่มต้น i :=start เมื่อ i * i <=n อัปเดต (เพิ่ม i ขึ้น 1) ทำ -
-
ถ้า n mod i เหมือนกับ 0 แล้ว −
-
อื่นๆ =แก้ (n / i, เป้าหมาย, ผม)
-
สำหรับการเริ่มต้น j :=0 เมื่อ j <ขนาดอื่น ๆ ให้อัปเดต (เพิ่ม j โดย 1) ทำ -
-
ใส่ i ต่อท้าย [j]
-
ใส่ other[j] ที่ส่วนท้ายของ ret
-
-
-
-
รีเทิร์น
-
จากวิธีหลัก ให้ทำดังต่อไปนี้ −
-
กลับแก้(n, n, 2)
ตัวอย่าง
ให้เราดูการใช้งานต่อไปนี้เพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้น -
#include <bits/stdc++.h> using namespace std; void print_vector(vector<vector<auto< > v){ cout << "["; for(int i = 0; i<v.size(); i++){ cout << "["; for(int j = 0; j <v[i].size(); j++){ cout << v[i][j] << ", "; } cout << "],"; } cout << "]"<<endl; } class Solution { public: vector < vector <int< > solve(int n, int target, int start){ vector < vector <int< > ret; if(n == 1){ return ret; } if(n != target){ ret.push_back({n}); } for(int i = start; i * i <= n; i++){ if(n % i == 0){ vector < vector <int< > other = solve(n / i, target,i); for(int j = 0; j < other.size(); j++){ other[j].push_back(i); ret.push_back(other[j]); } } } return ret; } vector<vector<int<> getFactors(int n) { return solve(n, n, 2); } }; main(){ Solution ob; print_vector(ob.getFactors(16)); }
อินพุต
16
ผลลัพธ์
[[8, 2, ],[4, 2, 2, ],[2, 2, 2, 2, ],[4, 4, ],]