ต่อไปเราจะมาดูวิธีการเช็คจำนวนหารด้วย 13 กัน ว่าลงตัวหรือไม่ ในกรณีนี้จำนวนเป็นจำนวนที่มาก ดังนั้นเราจึงใส่ตัวเลขเป็นสตริง
ตัวเลขจะถูกหารด้วย 13 หากตัวเลขตรงกับสถานการณ์ต่อไปนี้ -
- ตัวเลขหารด้วย 13 ลงตัวก็ต่อเมื่อเราได้ผลรวมสลับกัน เช่น บวกและลบบล็อกของตัวเลขสามตัวจากขวาไปซ้ายหารด้วย 13 ลงตัว เช่น 2911285 หารด้วย 13 ลงตัวเพราะว่าผลรวมสลับกันของ บล็อคขนาด 3 คือ 2 – 911 + 285 =-650 ซึ่งหารด้วย 13 ลงตัว
- ตัวเลขหารด้วย 13 ลงตัวก็ต่อเมื่อตัวเลขนั้นเกิดจากการบวกเลขหลักสุดท้ายคูณ 4 เข้ากับส่วนที่เหลือหารด้วย 13 ลงตัวเช่นกัน ตัวอย่างเช่น พิจารณา 2353 การใช้กฎข้างต้น เราจะได้ 235 + 3*4 =247. ในการทำซ้ำครั้งต่อไป 24 + 7*4 =52 เนื่องจาก 52 หารด้วย 13 ลงตัว ตัวเลขที่กำหนดจึงหารด้วย 13 ลงตัว
ตัวอย่าง
#include <bits/stdc++.h> using namespace std; bool isDiv13(string num){ int length = num.size(); if (length == 1 && num[0] == '0') return true; if (length % 3 == 1) { //when length is not divisible by 3, remainder is 1 num +="00"; length += 2; } else if (length % 3 == 2){ //when length is not divisible by 3, remainder is 2 num += "0"; length += 1; } int sum = 0, p = 1; for (int i = length - 1; i >= 0; i--) { int set = 0; set += (num[i--] - '0'); set += (num[i--] - '0') * 10; set += (num[i] - '0') * 100; sum = sum + set * p; p *= (-1); } sum = abs(sum); return (sum % 13 == 0); } int main() { string num = "83959092724"; if(isDiv13(num)){ cout << "Divisible"; } else { cout << "Not Divisible"; } }
ผลลัพธ์
Divisible