Computer >> คอมพิวเตอร์ >  >> การเขียนโปรแกรม >> การเขียนโปรแกรม

Steganography มีกี่ประเภท?


Steganography ไม่ได้เป็นเพียงศิลปะในการซ่อนข้อมูล แต่ยังซ่อนองค์ประกอบของการส่งข้อมูลที่เป็นความลับด้วย Steganography ซ่อนข้อมูลลับในไฟล์อื่นในวิธีการที่ผู้รับเท่านั้นที่เข้าใจการมีอยู่ของข้อความ

ในสมัยโบราณ ข้อมูลถูกปกปิดโดยซ่อนไว้ที่ด้านหลังขี้ผึ้ง โต๊ะเขียนสคริปต์ และท้องของกระต่ายหรือบนหนังศีรษะของทาส แต่ปัจจุบันมีบางคนส่งข้อมูลในรูปแบบข้อความ รูปภาพ วิดีโอ และเสียงผ่านสื่อ

สามารถส่งข้อมูลที่เป็นความลับได้อย่างปลอดภัย วัตถุมัลติมีเดีย เช่น เสียง วิดีโอ รูปภาพ ถูกใช้เป็นแหล่งปกปิดเพื่อปกปิดข้อมูล

Steganography มีหลายประเภทดังนี้ −

การสะกดรอยตามข้อความ - รวมถึงการซ่อนข้อมูลภายในไฟล์ข้อความ ในแนวทางนี้ ข้อมูลลับจะถูกซ่อนอยู่หลังตัวอักษรตัวที่ n ของแต่ละคำในข้อความ มีหลายวิธีในการซ่อนข้อมูลในไฟล์ข้อความ

การลบล้างรูปภาพ − มันสามารถซ่อนข้อมูลได้โดยการเอาวัตถุหน้าปกมา เนื่องจากภาพถูกกำหนดเป็นการลบล้างภาพ ในการจำลองภาพ ความเข้มของพิกเซลใช้เพื่อปกปิดข้อมูล

ใน Steganography แบบดิจิทัล รูปภาพมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในแหล่งที่มาของหน้าปก เนื่องจากมีการนำเสนอหลายบิตในคำอธิบายด้วยคอมพิวเตอร์ของรูปภาพ

มีคำศัพท์เฉพาะของ Image Steganography ซึ่งมีดังต่อไปนี้ -

  • ภาพหน้าปก − ภาพต้นฉบับที่สามารถใช้เป็นสื่อกลางในการปกปิดข้อมูลได้

  • ข้อความ - ข้อมูลจริงที่สามารถใช้เพื่อซ่อนในรูปภาพ ข้อความอาจเป็นข้อความธรรมดาหรือรูปภาพอื่นก็ได้

  • ภาพ Stego − หลังจากฝังข้อความลงในภาพหน้าปกแล้วจะเรียกว่า stegoimage

  • คีย์ Stego − คีย์สามารถใช้สำหรับการฝังหรือรับข้อความจากภาพหน้าปกและสเตโกอิมเมจ

การสะกดรอยตามเสียง − Audio Steganography เป็นเทคโนโลยีของการฝังข้อมูลในช่องสัญญาณเสียง สามารถใช้เพื่อความปลอดภัยของลิขสิทธิ์ดิจิทัล

ลายน้ำเป็นวิธีที่ซ่อนข้อมูลชิ้นหนึ่ง [ข้อความ] ในองค์ประกอบอื่นของข้อมูล [ผู้ให้บริการ] โดยทั่วไปจะใช้สำหรับแอปพลิเคชันต่างๆ รวมทั้งคลิปเสียง เป็นต้น

การสะกดรอยตามวิดีโอ − เป็นแนวทางในการปกปิดเอกสารหรือข้อมูลบางประเภทให้อยู่ในรูปแบบวิดีโอของคอมพิวเตอร์ ในวิธีนี้ วิดีโอ (ชุดรูปภาพ) สามารถใช้เป็นสื่อในการปกปิดข้อมูลได้

โดยทั่วไปแล้วการแปลงโคไซน์แบบไม่ต่อเนื่อง (DCT) จะแทรกค่าต่างๆ (เช่น 8.667 ถึง 9) ซึ่งสามารถใช้เพื่อปกปิดข้อมูลในแต่ละภาพในวิดีโอ ซึ่งสายตามนุษย์มองไม่เห็น H.264, Mp4, MPEG, AVI เป็นเลย์เอาต์ที่ใช้โดย Steganography ของวิดีโอ

การลบล้างเครือข่ายหรือโปรโตคอล - รวมถึงการซ่อนข้อมูลโดยการสร้างโปรโตคอลเครือข่ายรวมถึง TCP, UDP, ICMP, IP เป็นต้น เป็นวัตถุครอบคลุม ในรูปแบบเครือข่ายเลเยอร์ OSI จะมีช่องทางแอบแฝงที่สามารถใช้ Steganography ได้