ฟังก์ชันบูลีน
ในขณะที่กำลังพัฒนา นักพัฒนาอาจพบว่าใช่/ไม่ใช่ สถานการณ์. ณ จุดนั้น บูลีน() สามารถใช้ฟังก์ชันได้ ส่งผลเฉพาะใน จริง หรือ เท็จ . มาคุยกันในรายละเอียด
ไวยากรณ์
Boolean(exp);
ใช้นิพจน์และกลั่นกรองและแสดง จริง หรือ เท็จ ขึ้นอยู่กับความถูกต้องของนิพจน์
ตัวอย่าง-1
ในตัวอย่างต่อไปนี้ ค่าต่างๆ ได้รับการตรวจสอบแล้วว่าเป็นจริงหรือไม่โดยใช้ Boolean() การทำงาน. หากมีค่าใดถูกต้องตามกฎหมาย ค่าแล้วผลลัพธ์เป็นจริงมิฉะนั้นผลลัพธ์เป็นเท็จ
<html> <body> <p id = "boolean"></p> <script> var a = 0; document.write(Boolean(a)); /// displays false var b = 1; document.write(Boolean(b)); /// displays true var x = Boolean(100); var y = Boolean("Hello"); var z = Boolean('false'); document.getElementById("boolean").innerHTML = "45 is " + x + "</br>" + "a string 'Hello' is " + y + "</br>" + "a false value is " + z ; </script> </body> </html>
ผลลัพธ์
45 is true a string 'Hello' is true a false value is true false true
ตัวอย่าง-2
ในตัวอย่างต่อไปนี้ นิพจน์ ถูกส่งไปใน Boolean() ฟังก์ชันตรวจสอบความถูกต้องของนิพจน์ หากนิพจน์ ถูกกฎหมาย แล้ว จริง จะแสดงเป็นเอาต์พุตอื่น เท็จ จะแสดงเป็นเอาต์พุต
<html> <body> <script> document.write(Boolean(10 > 5)); document.write("</br>"); document.write(Boolean(1 > 4)); </script> </body> </html>
ผลลัพธ์
true false