Computer >> คอมพิวเตอร์ >  >> การเขียนโปรแกรม >> SQL Server

ฟังก์ชัน SUBSTRING ใน SQL Server

บทความนี้จะสำรวจและแนะนำวิธีใช้ฟังก์ชัน SUBSTRING ใน SQL Server เพื่อแยกสตริงย่อยจากสตริงที่ระบุ

อธิบาย

ฟังก์ชัน SUBSTRING ใน SQL Server ช่วยให้คุณสามารถแยกสตริงย่อยของความยาวที่ระบุโดยเริ่มจากตำแหน่งในสตริงอินพุต

ไวยากรณ์

หากต้องการใช้ฟังก์ชัน SUBSTRING ใน SQL Server เราใช้ไวยากรณ์ต่อไปนี้:

 SUBSTRING(string, start, length) 

พารามิเตอร์ :

  1. สตริง: สามารถเป็นสตริง ตัวแปร หรือคอลัมน์ที่คุณต้องการแยกได้
  2. เริ่ม: เป็นจำนวนเต็มที่ระบุตำแหน่งที่จะส่งคืนสตริงย่อย โปรดทราบว่าอักขระตัวแรกใน สตริง คือ 1 ไม่ใช่ 0
  3. ความยาว: จำนวนเต็มบวกที่ระบุจำนวนอักขระของสตริงย่อยที่ส่งคืนจาก สตริง

หมายเหตุ :

  1. ถ้า ความยาว พารามิเตอร์มีค่าลบ SUBSTRING จะมีข้อผิดพลาด
  2. ถ้า เริ่ม + ความยาว> ความยาวของ สตริง สตริงย่อยจะเริ่มตั้งแต่เริ่มต้นและรวมอักขระที่เหลือของ สตริง
  3. ดูฟังก์ชัน LEFT และ RIGHT เพื่อแยกสตริงย่อยจากสตริงที่ระบุ
  4. ฟังก์ชัน SUBSTRING สามารถใช้ได้ในเวอร์ชันที่ใหม่กว่าของ SQL Server:SQL Server 2017, SQL Server 2016, SQL Server 2014, SQL Server 2012, SQL Server 2008 R2, SQL Server 2008 และ SQL Server 2005

ตัวอย่าง

ลองดูและสำรวจตัวอย่างฟังก์ชัน SUBSTRING ใน SQL Server

 SELECT SUBSTRING('QuanTriMang.com', 1, 4); 
Result: 'Quan'

SELECT SUBSTRING('QuanTriMang.com', 5, 3);
Result: 'Tri'

SELECT SUBSTRING('QuanTriMang.com', 5, 15);
Result: 'TriMang.com'