อย่างที่เราทราบดีว่าโดยใช้นิพจน์เงื่อนไขภายในฟังก์ชัน SUM() เราจะได้รับจำนวนแถวที่ตรงตามเงื่อนไข ดังนั้น ในกรณีนี้ MySQL จะประเมินเป็น 1 ทุกครั้งที่เงื่อนไขเป็นจริงและเป็น 0 ในแต่ละครั้งที่เป็นเท็จ
เพื่อให้เข้าใจ ให้พิจารณาตัวอย่างต่อไปนี้ของตาราง 'พนักงาน' โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ -
mysql> Select * from Employee; +----+--------+--------+ | ID | Name | Salary | +----+--------+--------+ | 1 | Gaurav | 50000 | | 2 | Rahul | 20000 | | 3 | Advik | 25000 | | 4 | Aarav | 65000 | | 5 | Ram | 20000 | | 6 | Mohan | 30000 | | 7 | Aryan | NULL | | 8 | Vinay | NULL | +----+--------+--------+ 8 rows in set (0.00 sec)
ตอนนี้ สมมติว่าถ้าเราต้องการทราบจำนวนแถวทั้งหมดที่มีเงินเดือนมากกว่า 20000 นิพจน์เงื่อนไขสามารถใช้ภายในฟังก์ชัน SUM() ได้ดังนี้ −
mysql> Select SUM(Salary>20000) from employee568; +-------------------+ | SUM(Salary>20000) | +-------------------+ | 4 | +-------------------+ 1 row in set (0.00 sec)
ชุดผลลัพธ์ข้างต้นแสดงให้เห็นว่าพนักงาน 4 คนได้รับเงินเดือนมากกว่า 20000 ตำแหน่ง