คุณสามารถใช้ฟังก์ชัน hex2bin() ได้ เนื่องจากมันเทียบเท่ากับ PHP ของ UNHEX() ของ MySQL
ไวยากรณ์มีดังนี้ −
$anyVariableName =hex2bin("yourHexadecimalValue");
เพื่อให้เข้าใจไวยากรณ์ข้างต้น ให้เรานำไวยากรณ์ข้างต้นไปใช้ใน PHP รหัส PHP มีดังต่อไปนี้ -
$myFirstValue =hex2bin("7777772E4D7953514C4578616D706C652E636F6D");var_dump($myFirstValue);$mySecondValue=hex2bin("416476616E6365644A6176615769746846726716D6577" $mySecondValue=hex2bin("416476616E6365644A617661576974684672616D6577" }$ภาพรวมของโค้ด PHP มีดังต่อไปนี้ -
นี่คือภาพรวมของผลลัพธ์ -
นี่คือ MySQL UNHEX() -
กรณีที่ 1 − คำถามมีดังต่อไปนี้ −
mysql> เลือก UNHEX("7777772E4D7953514C4578616D706C652E636F6D");ต่อไปนี้เป็นผลลัพธ์ -
<ก่อน>+--------------------------------------------- -----+| UNHEX("7777772E4D7953514C4578616D706C652E636F6D") |+------------------------------------------ ---------+| www.MySQLExample.com |+--------------------------------------------- --------+1 แถวในชุด (0.00 วินาที)
กรณีที่ 2 − คำถามมีดังต่อไปนี้ −
mysql> เลือก UNHEX("416476616E6365644A617661576974684672616D65776F726B");
นี่คือผลลัพธ์ -
<ก่อน>+--------------------------------------------- ---------------+| UNHEX("416476616E6365644A617661576974684672616D65776F726B") |+------------------------------------------ --------------------+| AdvancedJavaWithFramework |+--------------------------------------------- --------------+1 แถวในชุด (0.00 วินาที)