ในบทช่วยสอนนี้ เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการดำเนินการความแตกต่างของชุดค่าตั้งแต่สองชุดขึ้นไปที่จัดเก็บไว้ในที่เก็บข้อมูล redis โดยใช้คำสั่ง redis SDIFF และ SDIFFSTORE
ความแตกต่างของเซต:
ในทฤษฎีเซต ผลต่างของเซต A และ B สองชุด เขียนเป็น A – B คือเซตที่มีองค์ประกอบทั้งหมดของเซต A ที่ไม่อยู่ในเซต B ตัวอย่างเช่น :
A = {1, 2, 3, 4, 5} B = {4, 5, 6, 7, 8, 9} Difference of A & B :- A - B = {1, 2, 3}
คำสั่ง SDIFF :-
คำสั่งนี้ดำเนินการความแตกต่างในชุดที่ระบุตั้งแต่สองชุดขึ้นไป และส่งกลับผลลัพธ์เป็นอาร์เรย์ หากไม่มีคีย์ที่ระบุ จะถือว่าเป็นชุดว่าง ข้อผิดพลาดจะถูกส่งคืน หากมีคีย์ แต่ค่าที่เก็บไว้ที่คีย์ไม่ใช่ชุด ไวยากรณ์ของคำสั่ง redis SDIFF มีดังนี้ :-
ไวยากรณ์ :-
redis host:post> SDIFF <keyName 1> <keyName 2> <keyName 3>
ผลลัพธ์ :-
- (array) reply, containing elements resulting from the difference operation. - Error, if key exist and value stored at the key is not a set.
ตัวอย่าง :-
คำสั่ง SDIFFSTORE :-
คำสั่งนี้ดำเนินการส่วนต่างในชุดที่ระบุตั้งแต่สองชุดขึ้นไป และส่งกลับค่าชุดใหม่ที่เก็บไว้ที่คีย์ที่ระบุ หากไม่มีคีย์ที่ระบุ จะถือว่าเป็นชุดว่าง ข้อผิดพลาดจะถูกส่งคืน หากมีคีย์ แต่ค่าที่เก็บไว้ที่คีย์ไม่ใช่ชุด ไวยากรณ์ของคำสั่ง redis SDIFFSTORE มีดังนี้ :-
ไวยากรณ์ :-
redis host:post> SDIFFSTORE <destination keyName> <keyName 1> <keyName 2> <keyName 3>
ผลลัพธ์ :-
- (integer) representing number of elements in the destination set. - Error, if key exist and value stored at the key is not a set.
ตัวอย่าง :-
ข้อมูลอ้างอิง :-
- เอกสารคำสั่ง SDIFF
- เอกสารคำสั่ง SDIFFSTORE
นั่นคือทั้งหมดสำหรับวิธีดำเนินการแตกต่างกับค่าที่ตั้งไว้ตั้งแต่สองค่าขึ้นไปที่จัดเก็บไว้ในที่เก็บข้อมูล Redis หากคุณชอบโปรดแบ่งปันความคิดของคุณในส่วนความคิดเห็นและแบ่งปันกับผู้อื่นด้วย