สมมติว่าเรามีตัวเลข n และอีกจำนวนหนึ่ง k เราต้องตรวจสอบว่า n สามารถแสดงเป็นผลรวมของจำนวนเฉพาะ k ได้หรือไม่
ดังนั้น หากอินพุตเป็นเหมือน n =30 k =3 เอาต์พุตจะเป็น True เพราะ 30 สามารถแสดงได้เหมือน 2 + 11 + 17
เพื่อแก้ปัญหานี้ เราจะทำตามขั้นตอนเหล่านี้ -
- ถ้า n
- คืนค่าเท็จ
- คืนค่า True
- ถ้า n เป็นคู่ ดังนั้น
- คืนค่า True
- ถ้า (n-2) เป็นจำนวนเฉพาะ แล้ว
- คืนค่า True
- คืนค่าเท็จ
- คืนค่า True
ตัวอย่าง
ให้เราดูการใช้งานต่อไปนี้เพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้น -
def isPrime(num): if num > 1: for i in range(2, num): if num % i == 0: return False return True return False def solve(n, k): if n < k*2: return False if k > 2: return True if k == 2: if n%2 == 0: return True if isPrime(n-2): return True return False if isPrime(n): return True return False n = 30 k = 3 print(solve(n, k))
อินพุต
30, 3
ผลลัพธ์
True