เมื่อจำเป็นต้องเพิ่มพจนานุกรมในทูเพิล คุณสามารถใช้เมธอด 'list', 'append' และ 'tuple' ได้
สามารถใช้รายการเพื่อเก็บค่าที่แตกต่างกัน (เช่น ข้อมูลของประเภทข้อมูลใดๆ เช่น จำนวนเต็ม จุดลอยตัว สตริง และอื่นๆ)
วิธีการ 'ผนวก' จะเพิ่มองค์ประกอบที่ส่วนท้ายของรายการ
ด้านล่างนี้เป็นการสาธิตสิ่งเดียวกัน -
ตัวอย่าง
my_tuple_1 = (7, 8, 0, 3, 45, 3, 2, 22, 4) print ("The tuple is : " ) print(my_tuple_1) my_dict = {"Hey" : 11, "there" : 31, "Jane" : 23} print("The dictionary is : ") print(my_dict) my_tuple_1 = list(my_tuple_1) my_tuple_1.append(my_dict) my_tuple_1 = tuple(my_tuple_1) print("The tuple after adding the dictionary elements is : ") print(my_tuple_1)
ผลลัพธ์
The tuple is : (7, 8, 0, 3, 45, 3, 2, 22, 4) The dictionary is : {'Hey': 11, 'there': 31, 'Jane': 23} The tuple after adding the dictionary elements is : (7, 8, 0, 3, 45, 3, 2, 22, 4, {'Hey': 11, 'there': 31, 'Jane': 23})
คำอธิบาย
- ทูเพิลถูกกำหนดและแสดงบนคอนโซล
- พจนานุกรมถูกกำหนดและแสดงบนคอนโซล
- ทูเพิลถูกแปลงเป็นรายการ และเพิ่มพจนานุกรมเข้าไปโดยใช้วิธีการ 'ผนวก'
- จากนั้น ข้อมูลผลลัพธ์นี้จะถูกแปลงเป็นทูเพิล
- ผลลัพธ์นี้ถูกกำหนดให้กับค่า
- แสดงเป็นเอาต์พุตบนคอนโซล