ถ้าเรามีรายการที่มีตัวเลขอยู่ เราก็สามารถตรวจสอบได้ว่าตัวเลขนั้นติดกันหรือไม่ และยังสามารถค้นหาว่าหมายเลขใดขาดหายไปจากช่วงของตัวเลขโดยพิจารณาว่าตัวเลขสูงสุดเป็นค่าสุดท้าย
มีช่วงและสูงสุด
เราสามารถออกแบบ for loop เพื่อตรวจสอบการไม่มีค่าในช่วงโดยใช้ตัวดำเนินการ not in จากนั้นจับค่าทั้งหมดเหล่านี้โดยเพิ่มลงในรายการใหม่ซึ่งจะกลายเป็นชุดผลลัพธ์
ตัวอย่าง
listA = [1,5,6, 7,11,14] # Original list print("Given list : ",listA) # using range and max res = [ele for ele in range(max(listA) + 1) if ele not in listA] # Result print("Missing elements from the list : \n" ,res)
ผลลัพธ์
การเรียกใช้โค้ดข้างต้นทำให้เราได้ผลลัพธ์ดังต่อไปนี้ -
Given list : [1, 5, 6, 7, 11, 14] Missing elements from the list : [0, 2, 3, 4, 8, 9, 10, 12, 13]
พร้อมชุด
เราใช้ฟังก์ชัน set เพื่อเก็บค่าที่ไม่ซ้ำกันทั้งหมดสำหรับช่วงที่กำหนด แล้วลบรายการที่กำหนดออกจากช่วงนั้น ดังนั้น นี่จึงทำให้ชุดผลลัพธ์ประกอบด้วยค่าที่หายไปจากตัวเลขที่ต่อเนื่องกัน
ตัวอย่าง
listA = [1,5,6, 7,11,14] # printing original list print("Given list : ",listA) # using set res = list(set(range(max(listA) + 1)) - set(listA)) # Result print("Missing elements from the list : \n" ,res)
ผลลัพธ์
การเรียกใช้โค้ดข้างต้นทำให้เราได้ผลลัพธ์ดังต่อไปนี้ -
Given list : [1, 5, 6, 7, 11, 14] Missing elements from the list : [0, 2, 3, 4, 8, 9, 10, 12, 13]