ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่าสิ่งอันดับทั้งหมดในรายการที่กำหนดมีความยาวเท่ากันหรือไม่
มีเลน
เราจะใช้ฟังก์ชัน len และเปรียบเทียบผลลัพธ์กับค่าที่กำหนดซึ่งเรากำลังตรวจสอบ หากค่าเท่ากัน เราจะถือว่าค่าเหล่านั้นมีความยาวไม่เท่ากัน
ตัวอย่าง
listA = [('Mon', '2 pm', 'Physics'), ('Tue', '11 am','Maths')] # printing print("Given list of tuples:\n", listA) # check length k = 3 res = 1 # Iteration for tuple in listA: if len(tuple) != k: res = 0 break # Checking if res is true if res: print("Each tuple has same length") else: print("All tuples are not of same length")
ผลลัพธ์
การเรียกใช้โค้ดข้างต้นทำให้เราได้ผลลัพธ์ดังต่อไปนี้ -
Given list of tuples: [('Mon', '2 pm', 'Physics'), ('Tue', '11 am', 'Maths')] Each tuple has same length
ด้วยทั้งหมดและเลน
เราฟ้องฟังก์ชัน len ที่สอดคล้องกับฟังก์ชัน all และใช้ a for loop เพื่อวนซ้ำผ่านแต่ละ tuple ที่อยู่ในรายการ
ตัวอย่าง
listA = [('Mon', '2 pm', 'Physics'), ('Tue', '11 am','Maths')] # printing print("Given list of tuples:\n", listA) # check length k = 3 res=(all(len(elem) == k for elem in listA)) # Checking if res is true if res: print("Each tuple has same length") else: print("All tuples are not of same length")
ผลลัพธ์
การเรียกใช้โค้ดข้างต้นทำให้เราได้ผลลัพธ์ดังต่อไปนี้ -
Given list of tuples: [('Mon', '2 pm', 'Physics'), ('Tue', '11 am', 'Maths')] Each tuple has same length