รายการเป็นชุดข้อมูลที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุดในไพ ธ อน เราอาจเจอสถานการณ์เมื่อเราต้องการทราบว่ารายการที่กำหนดนั้นได้รับการจัดเรียงแล้วหรือไม่ ในบทความนี้เราจะเห็นแนวทางในการบรรลุเป้าหมายนี้
ด้วยการเรียงลำดับ
เราคัดลอกรายการที่กำหนด ใช้ฟังก์ชันการเรียงลำดับกับรายการนั้น และจัดเก็บสำเนานั้นเป็นรายการใหม่ จากนั้นเราเปรียบเทียบกับรายการเดิมและตรวจสอบว่าเท่ากันหรือไม่
ตัวอย่าง
listA = [11,23,42,51,67] #Given list print("Given list : ",listA) listA_copy = listA[:] # Apply sort to copy listA_copy.sort() if (listA == listA_copy): print("Yes, List is sorted.") else: print("No, List is not sorted.") # Checking again listB = [11,23,21,51,67] #Given list print("Given list : ",listB) listB_copy = listB[:] # Apply sort to copy listB_copy.sort() if (listB == listB_copy): print("Yes, List is sorted.") else: print("No, List is not sorted.")
ผลลัพธ์
การเรียกใช้โค้ดข้างต้นทำให้เราได้ผลลัพธ์ดังต่อไปนี้ -
Given list : [11, 23, 42, 51, 67] Yes, List is sorted. Given list : [11, 23, 21, 51, 67] No, List is not sorted.
มีครบทุกช่วง
เราสามารถใช้ฟังก์ชัน all เพื่อตรวจสอบว่าทุกองค์ประกอบในรายการมีขนาดเล็กกว่าองค์ประกอบที่อยู่ติดกันหรือไม่ และใช้ฟังก์ชัน range เพื่อสำรวจองค์ประกอบทั้งหมด
ตัวอย่าง
listA = [11,23,42,51,67] #Given list print("Given list : ",listA) # Apply all and range if (all(listA[i] <= listA[i + 1] for i in range(len(listA)-1))): print("Yes, List is sorted.") else: print("No, List is not sorted.") # Checking again listB = [11,23,21,51,67] print("Given list : ",listB) # Apply all and range if (all(listB[i] <= listB[i + 1] for i in range(len(listB)-1))): print("Yes, List is sorted.") else: print("No, List is not sorted.")
ผลลัพธ์
การเรียกใช้โค้ดข้างต้นทำให้เราได้ผลลัพธ์ดังต่อไปนี้ -
Given list : [11, 23, 42, 51, 67] Yes, List is sorted. Given list : [11, 23, 21, 51, 67] No, List is not sorted.