ระหว่างการจัดการข้อมูลด้วย Python เราอาจต้องนำสองรายการมารวมกันและจัดองค์ประกอบในแต่ละคู่อย่างชาญฉลาด ซึ่งหมายความว่าองค์ประกอบที่ดัชนี 0 จากรายการ 1 จะเท่ากับองค์ประกอบจากดัชนี 0 ของ list2 เป็นต้น
ด้วยทูเพิล
ฟังก์ชันทูเพิลจะถูกนำมาใช้เพื่อสร้างองค์ประกอบในแต่ละรายการตามลำดับและจับคู่เข้าด้วยกัน ขั้นแรก เราเก็บผลลัพธ์ในสตริงชั่วคราวซึ่งมีรูปแบบที่ผลลัพธ์ของการจับคู่รายการแบบฟอร์มค่าจะปรากฏขึ้น
ตัวอย่าง
listA = ['day1', 'day2', 'day3'] listB = ['Mon', 'Tue', 'Fri'] # Given lists print("Given list A is : " ,listA) print("Given list B is : " ,listB) # Pairing list elements temp = len(listA) * '% s = %% s, ' res = temp % tuple(listA) % tuple(listB) # printing result print("Paired lists : " , res)
ผลลัพธ์
การเรียกใช้โค้ดข้างต้นทำให้เราได้ผลลัพธ์ดังต่อไปนี้ -
Given list A is : ['day1', 'day2', 'day3'] Given list B is : ['Mon', 'Tue', 'Fri'] Paired lists : day1 = Mon, day2 = Tue, day3 = Fri,
ด้วยการเข้าร่วมและซิป
ฟังก์ชัน zip สามารถจับคู่รายการแบบฟอร์มองค์ประกอบตามลำดับ และฟังก์ชัน join จะใช้รูปแบบที่จำเป็นที่เราต้องใช้กับคู่ต่างๆ
ตัวอย่าง
listA = ['day1', 'day2', 'day3'] listB = ['Mon', 'Tue', 'Fri'] # Given lists print("Given list A is : " ,listA) print("Given list B is : " ,listB) # Pairing list elements res= ', '.join('% s = % s' % i for i in zip(listA, listB)) # printing result print("Paired lists : " , res)
ผลลัพธ์
การเรียกใช้โค้ดข้างต้นทำให้เราได้ผลลัพธ์ดังต่อไปนี้ -
Given list A is : ['day1', 'day2', 'day3'] Given list B is : ['Mon', 'Tue', 'Fri'] Paired lists : day1 = Mon, day2 = Tue, day3 = Fri