พจนานุกรมในไพ ธ อนเป็นหนึ่งในประเภทข้อมูลคอลเลกชั่นที่ใช้บ่อยที่สุด มันถูกแสดงโดยคู่ค่า hey คีย์ได้รับการจัดทำดัชนีแล้ว แต่ค่าต่างๆ อาจไม่เป็นเช่นนั้น มีฟังก์ชันที่สร้างขึ้นโดยหลามจำนวนมากที่ทำให้การใช้พจนานุกรมเป็นเรื่องง่ายในโปรแกรมหลามต่างๆ ในหัวข้อนี้ เราจะเห็นวิธีการสร้างสามวิธี ได้แก่ cmp(), len() และ items() .
cmp()
เมธอด cmp() เปรียบเทียบพจนานุกรมสองพจนานุกรมตามคีย์และค่า มีประโยชน์ในการระบุพจนานุกรมที่ซ้ำกัน ตลอดจนทำการเปรียบเทียบเชิงสัมพันธ์ระหว่างพจนานุกรม เป็นคุณลักษณะเฉพาะใน python2 เท่านั้น และไม่มีใน python 3
ไวยากรณ์
cmp(dict1, dict2) Where dict1 and dict2 are the two input dictionaries.
ในตัวอย่างด้านล่าง เราจะเห็นคู่พจนานุกรมเปรียบเทียบกัน ผลลัพธ์จะเป็น 0 หากเท่ากัน เป็น 1 หากพจนานุกรมที่ 1 มีค่าสูงกว่า และ -1 หากพจนานุกรมแรกมีค่าต่ำกว่า
ตัวอย่าง
dict1 = {'Place': 'Delhi', 'distance': 137}; dict2 = {'Place': 'Agra', 'distance': 41}; dict3 = {'Place': 'Bangaluru', 'distance': 1100}; dict4 = {'Place': 'Bangaluru', 'distance': 1100}; print "comparison Result : %d" % cmp (dict1, dict2) print "comparison Result : %d" % cmp (dict2, dict3) print "comparison Result : %d" % cmp (dict3, dict4)
การเรียกใช้โค้ดด้านบนทำให้เราได้ผลลัพธ์ดังต่อไปนี้:
comparison Result : 1 comparison Result : -1 comparison Result : 0
เลน()
วิธีนี้จะให้ความยาวทั้งหมดของพจนานุกรมซึ่งเท่ากับจำนวนรายการ รายการเป็นคู่ค่าคีย์
ไวยากรณ์
len(dict)
ในตัวอย่างด้านล่าง เราจะเห็นความยาวของพจนานุกรม
ตัวอย่าง
dict1 = {'Place': 'Delhi', 'distance': 137}; dict2 = {'Place': 'Agra', 'distance': 41 ,'Temp': 25}; print("Length of dict1",len(dict1)) print("Length of dict2",len(dict2))
การเรียกใช้โค้ดข้างต้นทำให้เราได้ผลลัพธ์ดังต่อไปนี้ -
ผลลัพธ์
Length of dict1 2 Length of dict2 3
dict.items()
บางครั้งเราอาจจำเป็นต้องพิมพ์คู่ค่าคีย์ของพจนานุกรมเป็นรายการคู่ทูเพิล วิธีความยาวให้ผลลัพธ์นี้
ไวยากรณ์
Dictionayname.items()
ในตัวอย่างด้านล่าง เราจะเห็นพจนานุกรมสองชุดและรับรายการในแต่ละพจนานุกรมเป็นคู่ทูเพิล
ตัวอย่าง
dict1 = {'Place': 'Delhi', 'distance': 137}; dict2 = {'Place': 'Agra', 'distance': 41 ,'Temp': 25}; print(dict1.items()) print(dict2.items())
การเรียกใช้โค้ดข้างต้นทำให้เราได้ผลลัพธ์ดังต่อไปนี้ -
ผลลัพธ์
dict_items([('Place', 'Delhi'), ('distance', 137)]) dict_items([('Place', 'Agra'), ('distance', 41), ('Temp', 25)])