Computer >> คอมพิวเตอร์ >  >> การเขียนโปรแกรม >> Python

issuperset() ใน Python


ในบทความนี้ เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับ issuperset() ใน Python และการนำไปใช้ในด้านต่างๆ

เมธอดนี้คืนค่าบูลีนเป็น True หากองค์ประกอบทั้งหมดของชุด B มีองค์ประกอบทั้งหมดชุด A ซึ่งส่งผ่านเป็นอาร์กิวเมนต์และคืนค่าเป็นเท็จหากองค์ประกอบทั้งหมดของ A ไม่มีอยู่ใน B

ซึ่งหมายความว่าถ้า B เป็น superset ของ A แล้ว

returns true;
else False

issuperset() ใน Python

ตัวอย่าง

มาดูตัวอย่างกัน

A = {'t','u','t','o','r','i','a','l'}
B = {'t','u','t'}
print("A issuperset B : ", A.issuperset(B))
print("B issuperset A : ", B.issuperset(A))

ผลลัพธ์

A issuperset B : True
B issuperset A : False

ตัวอย่าง

A = {'t','u','t','o','r','i','a','l'}
B = {'t','u','t'}
C = {'o','r','i','a','l'}
print("A issuperset B : ", A.issuperset(B))
print("B issuperset A : ", B.issuperset(A))
print("A issuperset C : ", A.issuperset(C))
print("B issuperset C : ", B.issuperset(C))

ผลลัพธ์

A issuperset B : True
B issuperset A : False
A issuperset C : True
B issuperset C : False

บทสรุป

ในบทความนี้ เราได้เรียนรู้วิธีการใช้งานฟังก์ชัน issuperset() ใน Python 3.x หรือก่อนหน้านั้น