สมมติว่าเรามีอาร์เรย์ A ที่มีองค์ประกอบ n เราต้องหาความยาวของเซตย่อยที่ไม่ว่างขององค์ประกอบนั้น ซึ่งผลรวมของมันเป็นคู่หรือคืนค่า -1 เมื่อไม่มีเซตย่อยดังกล่าว
ดังนั้น หากอินพุตเป็นเหมือน A =[1, 3, 7] ผลลัพธ์จะเป็น 2 เพราะผลรวมของ [1, 3] เท่ากับ 4
ขั้นตอน
เพื่อแก้ปัญหานี้ เราจะทำตามขั้นตอนเหล่านี้ -
n := size of A for initialize i := 0, when i < n, update (increase i by 1), do: if A[i] mod 2 is same as 0, then: k := i + 1 if n is 1 AND k is 0, then: return -1 otherwise when k is not equal to 0, then: return 1 Otherwise return 2
ตัวอย่าง
ให้เราดูการใช้งานต่อไปนี้เพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้น -
#include <bits/stdc++.h> using namespace std; int solve(vector<int> A) { long n = A.size(), k = 0; for (long i = 0; i < n; i++) { if (A[i] % 2 == 0) { k = i + 1; } } if (n == 1 & k == 0) { return -1; } else if (k != 0) { return 1; } else { return 2; } } int main() { vector<int> A = { 1, 3, 7 }; cout << solve(A) << endl; }
อินพุต
{ 1, 3, 7 }
ผลลัพธ์
2