ในปัญหานี้ เราได้รับคำถามจำนวน Q โดยแต่ละรายการมีตัวเลข N หน้าที่ของเราคือสร้างโปรแกรมเพื่อแก้ปัญหาการสืบค้นเพื่อค้นหาว่าตัวเลขนั้นมีตัวประกอบที่แตกต่างกันสี่ตัวใน C++ หรือไม่
คำอธิบายปัญหา
ในการแก้ปัญหาแต่ละคำถาม เราต้องค้นหาว่าตัวเลข N มีตัวประกอบที่แตกต่างกันสี่ตัวหรือไม่ หากมีการพิมพ์ YES แสดงว่าไม่มี
มาดูตัวอย่างเพื่อทำความเข้าใจปัญหากัน
ป้อนข้อมูล :Q =3, 4, 6, 15
ผลผลิต :ไม่เป็นไร
คำอธิบาย
สำหรับข้อความค้นหา 1:ตัวประกอบของ 4 คือ 1, 2, 4
สำหรับข้อความค้นหา 2:ตัวประกอบของ 6 คือ 1, 2, 3, 6
สำหรับข้อความค้นหา 3:ตัวประกอบของ 15 คือ 1, 3, 5, 15
แนวทางการแก้ปัญหา
วิธีแก้ปัญหาอย่างง่ายคือการหาตัวประกอบทั้งหมดของตัวเลข ทำได้โดยการค้นหาตัวเลขทั้งหมดจากหนึ่งถึง √N และเพิ่มตัวนับขึ้น 2 จากนั้นตรวจสอบว่าตัวนับเท่ากับ 4 แล้วพิมพ์ YES หรือ NO ตามความเท่าเทียมกัน
ตัวอย่าง
#include <iostream> #include <math.h> using namespace std; int solveQuery(int N){ int factors = 0; for(int i = 1; i < sqrt(N); i++){ if(N % i == 0){ factors += 2; } } if(factors == 4){ return 1; } return 0; } int main() { int Q = 3; int query[3] = {4, 6, 15}; for(int i = 0; i < Q; i++){ if(solveQuery(query[i])) cout<<"The number "<<query[i]<<" has exactly four distinct factors\n"; else cout<<"The number "<<query[i]<<" does not have exactly four distinct factors\n"; } }
ผลลัพธ์
The number 4 does not have exactly four distinct factors The number 6 has exactly four distinct factors The number 15 has exactly four distinct factors
วิธีที่มีประสิทธิภาพคือการใช้แนวคิดของทฤษฎีจำนวนสำหรับตัวเลขสี่ตัว ดังนั้น หากตัวเลขมีตัวประกอบสี่ตัวแล้ว
-
ถ้าตัวเลขเป็นลูกบาศก์ของจำนวนเฉพาะ จากนั้นจะมีปัจจัยสี่ประการที่แตกต่างกัน ตัวอย่าง ถ้า N =(p^3) ตัวประกอบจะเป็น 1, p, (p^2), N.
-
ถ้าตัวเลขเป็นผลคูณของจำนวนเฉพาะสองจำนวนที่แตกต่างกัน จากนั้นจะมีปัจจัยสี่ประการที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น ถ้า N =p1*p2 ตัวประกอบจะเป็น 1, p1, p2, N.
ตัวอย่าง
#include <bits/stdc++.h> using namespace std; int N = 1000; bool hasFourFactors[1000]; void fourDistinctFactors() { bool primeNo[N + 1]; memset(primeNo, true, sizeof(primeNo)); for (int i = 2; i <= sqrt(N); i++) { if (primeNo[i] == true) { for (int j = i * 2; j <= N; j += i) primeNo[j] = false; } } vector<int> primes; for (int i = 2; i <= N; i++) if (primeNo[i]) primes.push_back(i); memset(hasFourFactors, false, sizeof(hasFourFactors)); for (int i = 0; i < primes.size(); ++i) { int p1 = primes[i]; if (1 *(pow(p1, 3)) <= N) hasFourFactors[p1*p1*p1] = true; for (int j = i + 1; j < primes.size(); ++j) { int p2 = primes[j]; if (1 * p1*p2 > N) break; hasFourFactors[p1*p2] = true; } } } int main() { int Q = 3; int query[] = {3, 6, 15}; fourDistinctFactors(); for(int i = 0; i < Q; i++){ if(hasFourFactors[query[i]]) cout<<"The number "<<query[i]<<" has exactly four distinct factors\n"; else cout<<"The number "<<query[i]<<" does not have exactly four distinct factors\n"; } return 0; }
ผลลัพธ์
The number 3 does not have exactly four distinct factors The number 6 has exactly four distinct factors The number 15 has exactly four distinct factors