สมมุติว่าเรามีลำดับของตัวเลขเรียกว่า เลขคณิต ถ้าประกอบด้วยองค์ประกอบอย่างน้อยสามองค์ประกอบ และถ้าความแตกต่างระหว่างสององค์ประกอบที่ต่อเนื่องกันนั้นเหมือนกัน ตัวอย่างเช่น นี่คือลำดับเลขคณิต:[1, 3, 5, 7, 9], [7, 7, 7, 7], [3, -1, -5, -9] แต่ลำดับต่อไปนี้ไม่ใช่ เลขคณิต [1, 1, 2, 5, 7]
ตอนนี้ให้อาร์เรย์ A ที่จัดทำดัชนีเป็นศูนย์ซึ่งประกอบด้วยตัวเลข N สไลซ์ของอาร์เรย์ที่ระบุนั้นเป็นจำนวนเต็มคู่ใดๆ (P, Q) โดยที่ 0 <=P
ดังนั้นหากอินพุตเป็นเหมือน [1,2,3,4] ผลลัพธ์จะเป็น 3 เนื่องจากองค์ประกอบคือ [1,2,3], [2,3,4] และ [1,2,3 4]
เพื่อแก้ปัญหานี้ เราจะทำตามขั้นตอนเหล่านี้ -
ret :=0, n :=ขนาดของ A สร้างอาร์เรย์ dp ขนาด n
สำหรับฉันอยู่ในช่วง 2 ถึง n – 1
ถ้า a[i] – a[i – 1] =a[i – 1] – a[i – 2] แล้ว
dp[i] :=1 + dp[i - 1]
เพิ่ม ret โดย dp[i]
รีเทิร์น ให้เราดูการใช้งานต่อไปนี้เพื่อทำความเข้าใจ −
ตัวอย่าง (C++)
#include <bits/stdc++.h>
using namespace std;
class Solution {
public:
int numberOfArithmeticSlices(vector<int>& A) {
int ret = 0;
int n = A.size();
vector <int> dp(n);
for(int i = 2; i < n; i++){
if(A[i] - A[i - 1] == A[i - 1] - A[i - 2]){
dp[i] = 1 + dp[i - 1];
ret += dp[i];
}
}
return ret;
}
};
main(){
Solution ob;
cout << (ob.removeKdigits("1432219", 3));
}
อินพุต
"1432219"
3
ผลลัพธ์
1219