Computer >> คอมพิวเตอร์ >  >> การเขียนโปรแกรม >> C++

ฟังก์ชัน isinf() ใน C++


ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงฟังก์ชัน isinf() ใน C++, ไวยากรณ์, การทำงาน และค่าที่ส่งคืนมา

isinf() เป็นฟังก์ชัน inbuilt ใน C++ ซึ่งอยู่ภายใต้ไฟล์ส่วนหัว ฟังก์ชันนี้ใช้เพื่อตรวจสอบว่าตัวแปรที่ส่งผ่านเข้ามานั้นเป็นค่าอนันต์หรือไม่ ไม่ว่าตัวเลขจะเป็นค่าลบหรือค่าอนันต์บวกก็ตาม หากตัวเลขเป็นอนันต์ ฟังก์ชันจะส่งกลับค่าที่ไม่ใช่ศูนย์ (จริง) และถ้าไม่ใช่ ฟังก์ชันจะส่งกลับค่าศูนย์ (เท็จ) นอกจากนี้ หากตัวเลขเป็น NAN ฟังก์ชันจะคืนค่า 0 ด้วย

ไวยากรณ์

bool isinf(float n);

หรือ

bool isinf(double n);

หรือ

bool isinf(long double n);

ฟังก์ชันนี้รับเลขทศนิยมเพียงตัวเดียว

คืนค่า

ฟังก์ชันส่งคืนค่าบูลีน 0 สำหรับเท็จ (ไม่ใช่อนันต์) และ 1 หากเป็นจริง (อนันต์)

ตัวอย่าง

#include <iostream>
#include <cmath>
using namespace std;
int main() {
   float a = 0.0, b = 10.0;
   isinf(a/b)?cout<<"\nInfinte":cout<<"\nFinite"; //check the number is infinte or finite
   isinf(b/a)?cout<<"\nInfinite":cout<<"\nFinite";
}

ผลลัพธ์

หากเราเรียกใช้โค้ดข้างต้น มันจะสร้างผลลัพธ์ต่อไปนี้ -

Finite
Infinite

ตัวอย่าง

#include <iostream>
#include <cmath>
using namespace std; int main() {
   float a = 0.0;
   cout<<isinf(a);
   cout<<isinf(sqrt(-1.0));
}

ผลลัพธ์

หากเราเรียกใช้โค้ดข้างต้น มันจะสร้างผลลัพธ์ต่อไปนี้ -

0 0