เราต้องเขียนฟังก์ชัน maximumDifference() ที่รับค่าจำนวนบวก n และคืนค่าส่วนต่างระหว่างจำนวนสูงสุดและจำนวนต่ำสุดที่สามารถสร้างจากจำนวน n ได้
ตัวอย่างเช่น −
หากตัวเลข n คือ 203
-
จำนวนสูงสุดที่สามารถเกิดขึ้นได้จากตัวเลขจะเป็น 320
-
จำนวนขั้นต่ำที่สามารถเกิดขึ้นได้จากตัวเลขจะเป็น 23 (วางศูนย์ไว้ที่ตำแหน่งเดียว)
และความแตกต่างจะเป็น -
320-23 = 297
ดังนั้น ผลลัพธ์ควรเป็น 297
มาเขียนโค้ดสำหรับฟังก์ชันนี้กัน −
ตัวอย่าง
const digitDifference = num => { const asc = +String(num).split("").sort((a, b) => { return (+a) - (+b); }).join(""); const des = +String(num).split("").sort((a, b) => { return (+b) - (+a); }).join(""); return des - asc; }; console.log(digitDifference(203)); console.log(digitDifference(123)); console.log(digitDifference(546)); console.log(digitDifference(2354));
ผลลัพธ์
ผลลัพธ์ในคอนโซลจะเป็น -
297 198 198 3087