สำหรับการคำนวณผลรวมเฉพาะค่าที่แตกต่างกันของคอลัมน์ เราสามารถใช้คีย์เวิร์ด 'DISTINCT' ร่วมกับชื่อของคอลัมน์ เพื่อให้เข้าใจฟังก์ชัน SUM() สำหรับค่าที่ไม่เหมือนกัน ให้พิจารณาตาราง 'employee_tbl' ซึ่งมีบันทึกดังต่อไปนี้ -
mysql> SELECT * FROM employee_tbl; +------+------+------------+--------------------+ | id | name | work_date | daily_typing_pages | +------+------+------------+--------------------+ | 1 | John | 2007-01-24 | 250 | | 2 | Ram | 2007-05-27 | 220 | | 3 | Jack | 2007-05-06 | 170 | | 3 | Jack | 2007-04-06 | 100 | | 4 | Jill | 2007-04-06 | 220 | | 5 | Zara | 2007-06-06 | 300 | | 5 | Zara | 2007-02-06 | 350 | +------+------+------------+--------------------+ 7 rows in set (0.00 sec)
ตอนนี้ สมมติว่าตามตารางด้านบนที่คุณต้องการคำนวณผลรวมของ dialy_typing_pages ทั้งหมดที่มีค่าต่างกัน จากนั้นคุณสามารถทำได้โดยใช้คำสั่งต่อไปนี้ -
mysql> SELECT SUM(DISTINCT daily_typing_pages) -> FROM employee_tbl; +-------------------------+ | SUM(daily_typing_pages) | +-------------------------+ | 1390 | +-------------------------+ 1 row in set (0.00 sec)
ชุดผลลัพธ์ข้างต้นแสดงว่า MySQL SUM() ที่มีคีย์เวิร์ด DISTINCT คำนวณผลรวมของเรคคอร์ดที่แตกต่างกันเท่านั้น นั่นคือเพิ่มค่า '220' เพียงครั้งเดียวเท่านั้น