หน้าแรก
หน้าแรก
ตามชื่อของมัน มันตรงกันข้ามกับฟังก์ชัน HEX() โดยทั่วไปแล้ว ฟังก์ชัน UNHEX() จะแปลงเลขฐานสิบหกให้เป็นไบต์ที่แสดงด้วยตัวเลข ค่าที่ส่งคืนจะเป็นสตริงไบนารี ไวยากรณ์ UNHEX(str) ที่นี่ str เป็นสตริงที่จะแปลงเป็นไบต์ที่แสดงด้วยตัวเลข อักขระใน str ต้องเป็นเลขฐานสิบหกที่ถูกต้อง ตัวอย่าง mysql> Select UNH
MySQL คืนค่า NULL หากเราระบุตัวเลขที่ไม่ใช่เลขฐานสิบหกเป็นอาร์กิวเมนต์ของฟังก์ชัน UNHEX() ตัวอย่างต่อไปนี้จะแสดงให้เห็น ตัวอย่าง mysql> Select UNHEX('ANK96598'); +-------------------+ | UNHEX('ANK96598') | +-------------------+ | NULL &nbs
อันที่จริง MySQL จะประเมินค่าเลขฐานสิบหกว่างเป็นสตริงไบนารีที่มีความยาวเป็นศูนย์ สามารถแสดงให้เห็นได้ดังนี้ − mysql> Select CHARSET(X''); +--------------+ | CHARSET(X'') | +--------------+ | binary | +--------------+ 1 row in set (0.00 sec) ชุดผลลัพธ์ข้างต้นแ
อย่างที่เราทราบดีว่าค่าเลขฐานสิบหกว่างนั้นเป็นสตริงไบนารีที่มีความยาวเป็นศูนย์ ดังนั้น หากเพิ่ม 0 เข้าไป ผลลัพธ์จะเป็น 0 กล่าวอีกนัยหนึ่ง เราสามารถพูดได้ว่าถ้าเรา แปลงค่าเลขฐานสิบหกว่างเป็นตัวเลขแล้วสร้าง 0 แบบสอบถามต่อไปนี้จะทำให้เข้าใจ - mysql> SELECT X''+ 0; +--------+ | X''+ 0
เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการสืบค้น MySQL เป็นองค์ประกอบที่สำคัญของเซิร์ฟเวอร์ MySQL ที่สร้างการตั้งค่าการดำเนินการคำถามที่ดีที่สุดสำหรับการสืบค้น สำหรับคิวรีเฉพาะ ตัวเพิ่มประสิทธิภาพคิวรีใช้การกระจายคีย์ที่เก็บไว้และปัจจัยอื่นๆ เพื่อตัดสินว่าควรรวมตารางใดเมื่อคุณทำการรวม และดัชนีใดควรใช้สำหรับตาราง
สมมติว่าเรามีตารางชื่อ ipaddress ซึ่งมีที่อยู่ IP เป็นค่าในคอลัมน์ IP ดังนี้ - mysql> Select * from ipaddress; +-----------------+ | ip | +-----------------+ | 192.128.0.5 | | 255.255.255.255 | | 192.0.255.255 | | 192.0.1.5 &nbs
เราจำเป็นต้องใช้ฟังก์ชัน SUBSTRING_INDEX() ที่ซ้อนกันเพื่อรับสตริงย่อยเป็นเอาต์พุตซึ่งอยู่ระหว่างตัวคั่นสองตัวเดียวกันในสตริง ตัวอย่างเช่น จากสตริง www.tutorialspoint.com เราต้องการสตริงย่อย tutorialspoint ซึ่งอยู่ระหว่างตัวคั่นสองตัวเดียวกัน . เป็นเอาต์พุต ฟังก์ชัน SUBSTRING_INDEX() สามารถใช้ในรูปแ
เราสามารถใช้คำสั่ง SET PASSWORD เพื่อเปลี่ยนรหัสผ่าน ก่อนใช้คำสั่งนี้ เราต้องมีสิทธิ์ UPDATE เป็นอย่างน้อย ไวยากรณ์จะเป็นดังนี้ − ไวยากรณ์ SET PASSWORD FOR ‘user_name@host_name’=new_password; ที่นี่ New_password จะเป็นรหัสผ่านใหม่ที่เราต้องการตั้งค่าสำหรับผู้ใช้ MySQL User_name คือชื่อ
เรายังสามารถใช้คำสั่ง ALTER USER ร่วมกับส่วนคำสั่ง IDENTIFIED BY เพื่อเปลี่ยนรหัสผ่านผู้ใช้ MySQL ไวยากรณ์ของมันจะเป็นที่สุด - ไวยากรณ์ ALTER USER user_name@host_name IDENTIFIED BY ‘new_password’ ที่นี่ รหัสผ่านใหม่ จะเป็นรหัสผ่านใหม่ที่เราต้องการตั้งค่าสำหรับผู้ใช้ MySQL ชื่อผู้ใช้ ค
MySQL ใช้ระบบการควบคุมการเข้าถึงและสิทธิพิเศษที่ซับซ้อน ซึ่งช่วยให้เราสร้างกฎการเข้าถึงที่ครอบคลุมสำหรับจัดการการทำงานของไคลเอ็นต์และป้องกันไคลเอ็นต์ที่ไม่ได้รับอนุญาตไม่ให้เข้าถึงระบบฐานข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ การควบคุมการเข้าถึง MySQL มีสองขั้นตอนเมื่อไคลเอนต์เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ - การยืนยั
เพื่อให้เข้าใจ เรากำลังใช้ข้อมูลต่อไปนี้จากตารางชื่อ customerdetail mysql> Select * from Customerdetail; +----------------------+----------------------+-----------+---------------------+ | Name | FName &nbs
เมื่อเราติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ MySQL ฐานข้อมูลชื่อ MySQL จะสร้างโดยอัตโนมัติ MySQL นี้ ฐานข้อมูลประกอบด้วยตารางการให้สิทธิ์หลักห้าตารางด้วยความช่วยเหลือซึ่งเซิร์ฟเวอร์ MySQL สามารถควบคุมสิทธิ์ของเซิร์ฟเวอร์ฐานข้อมูล MySQL ตารางเหล่านี้มีดังนี้ − ตารางผู้ใช้ ตารางนี้มีคอลัมน์บัญชีผู้ใช้และสิทธิ์ส่วนกล
อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าเซิร์ฟเวอร์ฐานข้อมูล MySQL มีตารางผู้ใช้ในฐานข้อมูล MySQL ซึ่งใช้สำหรับจัดเก็บบัญชีผู้ใช้ ดังนั้นโดยใช้ฐานข้อมูล MySQL เราจึงสามารถสร้างบัญชีผู้ใช้ในเซิร์ฟเวอร์ฐานข้อมูล MySQL ได้ ในการสร้างบัญชีผู้ใช้ใหม่จะต้องมีสองสิ่ง หนึ่งคือชื่อผู้ใช้และอีกอันคือชื่อโฮสต์ซึ่งอยู่ห
ค่อนข้างเป็นไปได้ที่จะอนุญาตให้บัญชีผู้ใช้เชื่อมต่อจากโฮสต์ใดก็ได้ ในการทำเช่นนั้น เราจำเป็นต้องสร้างผู้ใช้ด้วยความช่วยเหลือของอักขระไวด์การ์ด % หลังอักขระ @ ไวยากรณ์จะเป็นดังนี้ − Use mysql; CREATE USER user_name@’%’ IDENTIFIED BY password; ที่นี่ ชื่อผู้ใช้ คือชื่อผู้ใช้ที่เราต้องกา
เพื่อให้เข้าใจ เรากำลังใช้ข้อมูลต่อไปนี้จากตารางชื่อ customerdetail mysql> Select * from Customerdetail; +----------------------+----------------------+----------+---------------------+ | Name | FName  
ด้วยความช่วยเหลือของ mysqladmin โปรแกรมที่เราจะสามารถทราบเกี่ยวกับเวอร์ชันของเซิร์ฟเวอร์ MySQL ของเรา ในการรับเวอร์ชันเราควรเขียนคำสั่งต่อไปนี้บนบรรทัดคำสั่ง - C:\mysql\bin>mysqladmin -u root version mysqladmin Ver 8.42 Distrib 5.7.20, for Win64 on x86_64 Copyright (c) 2000, 2017, Oracle and/or
ด้วยความช่วยเหลือของโปรแกรม mysqladmin เราจะสามารถปิดเซิร์ฟเวอร์ MySQL ของเราได้ สามารถใช้ได้ดังนี้บนบรรทัดคำสั่ง − C:\mysql\bin>mysqladmin -u root shutdown เราจะไม่เห็นสิ่งใดหลังจากป้อนคำสั่งด้านบน เพราะจะไม่พิมพ์ข้อความใดๆ ในหน้าต่างคำสั่ง เราควรจะต้องเชื่อมั่นว่าเซิร์ฟเวอร์ MySQL ถูกปิดอย่างถู
MySQL CHAR_LENGTH() ใช้เพื่อดึงความยาวของสตริงที่ระบุ ฟังก์ชันนี้จะนับจำนวนอักขระอย่างง่าย ๆ และไม่สนใจว่าอักขระนั้นเป็นแบบไบต์เดี่ยวหรือแบบหลายไบต์ ฟังก์ชัน MySQL CHARACTER_LENGTH() เป็นคำพ้องความหมายของมัน ไวยากรณ์ของฟังก์ชันเหล่านี้มีดังนี้ − ไวยากรณ์ CHAR_LENGTH CHAR_LENGTH (Str) โดยที่ Str คือ
ฐานข้อมูล MySQL ให้โปรแกรมต่อไปนี้เป็นเครื่องมือในการดูแลจัดการเซิร์ฟเวอร์ MySQL - mysqld เป็นที่รู้จักกันว่าภูตเซิร์ฟเวอร์ MySQL เป็นโปรแกรมหลักที่ทำงานส่วนใหญ่ในการติดตั้ง MySQL เราจำเป็นต้องใช้ mysqld เพื่อเริ่มเซิร์ฟเวอร์ MySQL ของเรา มีตัวเลือกมากมายที่สามารถระบุได้เมื่อเริ่มต้น mysqladmin ปร
ด้วยความช่วยเหลือของ mysqladmin พร้อมกับโปรแกรมตัวเลือก สถานะ เราจะสามารถตรวจสอบสถานะของเซิร์ฟเวอร์ MySQL ได้ สามารถใช้ได้ดังนี้บนบรรทัดคำสั่ง − C:\mysql\bin>mysqladmin -u root status Uptime: 3865 Threads: 1 Questions: 50 Slow queries: 0 Opens: 113 Flush tables: 1 Open tables: 102 Queries per sec