สมมติว่าเราได้รับช่วงของตัวเลขจำนวนเต็มและขอให้ค้นหาตัวเลขพิเศษในช่วง จำนวนพิเศษคือตัวเลขที่เป็นจำนวนเต็มบวกที่มีเลขทศนิยมเพียง 1 หลัก ตัวเลขที่มีมากกว่า 1 หลักในการแสดงทศนิยมสามารถเป็นตัวเลขพิเศษได้เช่นกัน หากตัวเลขนั้นหารด้วยจำนวนหลักในการแทนค่าทศนิยมได้ลงตัว และค่าผลหารนั้นเป็นตัวเลขพิเศษ เราคืนค่าจำนวนตัวเลขพิเศษในช่วงที่กำหนด (left_limit, right_limit)
ดังนั้น หากอินพุตเป็นเหมือน left_limit =5, right_limit =30 ผลลัพธ์จะเป็น 13
ตัวเลขพิเศษในช่วงนี้คือ 5, 6, 7, 8, 9, 10, 12, 14, 16, 18, 20, 24 และ 28
เพื่อแก้ปัญหานี้ เราจะทำตามขั้นตอนเหล่านี้ -
- ถ้า right_limit <10 แล้ว
- กลับ right_limit - left_limit + 1
- len_right :=ขนาดของการแสดงสตริงของ (right_limit)
- number_list :=[0,1,2,3,4,5,6,7,8,9,10,12,14,16,18]
- สำหรับ j ในช่วง 2 ถึง len_right + 1 ทำ
- สำหรับแต่ละ k ใน number_list ทำ
- temp1 :=k * j
- ถ้าขนาดของการแสดงสตริงของ temp1 เท่ากับ j แล้ว
- แทรก temp1 ที่ส่วนท้ายของ number_list
- มิฉะนั้น เมื่อ len(str(temp1)))> j แล้ว
- ออกมาจากวงจร
- ถ้า number_list[ขนาดของ number_list - 1]>=right_limit แล้ว
- ออกมาจากวงจร
- สำหรับแต่ละ k ใน number_list ทำ
- ลบค่าที่ซ้ำกันออกจาก number_list แล้วจัดเรียง
- นับ :=0
- สำหรับแต่ละ temp2 ใน number_list ให้ทำ
- ถ้า temp2>=left_limit และ temp2 <=right_limit แล้ว
- นับ :=นับ + 1
- ถ้า temp2>=left_limit และ temp2 <=right_limit แล้ว
- จำนวนคืนสินค้า
ตัวอย่าง
ให้เราดูการใช้งานต่อไปนี้เพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้น -
def strange(left_limit, right_limit): if right_limit < 10: return right_limit - left_limit + 1 len_right = len(str(right_limit)) number_list = [0,1,2,3,4,5,6,7,8,9,10,12,14,16,18] for j in range(2, len_right + 1): for k in number_list: temp1 = k*j if len(str(temp1)) == j: number_list.append(temp1) elif len(str(temp1)) > j: break if number_list[len(number_list)-1] >= right_limit: break number_list = list(set(number_list)) count = 0 for temp2 in number_list: if temp2 >= left_limit and temp2 <= right_limit: count = count + 1 return count print(strange(5, 30))
อินพุต
5, 30
ผลลัพธ์
13