ค่าความจริงของนิพจน์จะถูกเก็บไว้เป็นชนิดข้อมูลหลามที่เรียกว่าบูล มีเพียงสองค่าดังกล่าวในประเภทข้อมูลนี้ จริงและเท็จ
ประเภทข้อมูลบูลีน
ในโปรแกรมด้านล่าง เราจะค้นหาประเภทข้อมูลของค่า True และ False Boolean
ตัวอย่าง
print(True) print(type(True)) print(False) print(type(False))
ผลลัพธ์
การเรียกใช้โค้ดข้างต้นทำให้เราได้ผลลัพธ์ดังต่อไปนี้ -
True <class 'bool'> False <class 'bool'>
นิพจน์บูลีน
นิพจน์บูลีนคือนิพจน์ที่ประเมินเป็นค่าบูลีน เกือบจะเกี่ยวข้องกับตัวดำเนินการเปรียบเทียบเสมอ ในตัวอย่างด้านล่าง เราจะดูว่าตัวดำเนินการเปรียบเทียบสามารถให้ค่าบูลีนแก่เราได้อย่างไร วิธีการ bool() ใช้เพื่อคืนค่าความจริงของ ex[resison.
ตัวอย่าง
Syntax: bool([x]) Returns True if X evaluates to true else false. Without parameters it returns false.
ด้านล่างนี้ เรามีตัวอย่างที่ใช้สตรีมตัวเลขและค่าบูลีนเป็นพารามิเตอร์สำหรับฟังก์ชันบูล ผลลัพธ์ออกมาจริงหรือเท็จขึ้นอยู่กับพารามิเตอร์
ตัวอย่าง
# Check true a = True print(bool(a)) # Check false a = False print(bool(a)) # Check 0 a = 0.0 print(bool(a)) # Check 1 a = 1.0 print(bool(a)) # Check Equality a = 5 b = 10 print(bool( a==b)) # Check None a = None print(bool(a)) # Check an empty sequence a = () print(bool(a)) # Check an emtpty mapping a = {} print(bool(a)) # Check a non empty string a = 'Tutorialspoint' print(bool(a))
ผลลัพธ์
การเรียกใช้โค้ดข้างต้นทำให้เราได้ผลลัพธ์ดังต่อไปนี้ -
True False False True False False False False True