ในบทความนี้ เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีแก้ปัญหาตามที่ระบุด้านล่าง
แจ้งปัญหา − เราได้รับสตริง เราจำเป็นต้องนับจำนวนอักขระตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็กที่อยู่ในสตริงโดยไม่ต้องใช้ฟังก์ชัน inbuilt
ซึ่งสามารถแก้ไขได้ง่ายโดยใช้ฟังก์ชัน islower() และ isupper() ที่มีอยู่ใน python แต่ที่นี่มีข้อจำกัดในการใช้ฟังก์ชัน inbuilt ดังนั้นเราจึงใช้ค่า ASCII ของอักขระมาช่วยเหลือ
การใช้ฟังก์ชัน ord() เราจะคำนวณค่า ASCII ของอักขระแต่ละตัวที่อยู่ในสตริง จากนั้นเปรียบเทียบเพื่อตรวจสอบตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็กดังที่แสดงด้านล่าง
ตัวอย่าง
def upperlower(string): upper = 0 lower = 0 for i in range(len(string)): # For lowercase if (ord(string[i]) >= 97 and ord(string[i]) <= 122): lower += 1 # For uppercase elif (ord(string[i]) >= 65 and ord(string[i]) <= 90): upper += 1 print('Lower case characters = '+str(lower)) print('Upper case characters = '+str(upper)) # Driver Code string = 'TutorialsPoint' upperlower(string)
ผลลัพธ์
Lower case characters = 12 Upper case characters = 2
ตัวแปรทั้งหมดได้รับการประกาศในขอบเขตท้องถิ่นและการอ้างอิงของตัวแปรนั้นดูได้จากรูปด้านบน
บทสรุป
ในบทความนี้ เราได้เรียนรู้วิธีการนับอักขระตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็กที่อยู่ในสตริงที่กำหนด