System File Checker หรือ SFC เป็นเครื่องมือระบบที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสแกนหาและกู้คืนไฟล์ระบบ Windows ที่เสียหายได้ มันถูกรวมเข้ากับ Windows Resource Protection ซึ่งปกป้องรีจิสตรีคีย์และโฟลเดอร์ตลอดจนไฟล์ระบบที่สำคัญ หากมีปัญหาความสมบูรณ์ของไฟล์ SFC สามารถแก้ไขได้ อย่างไรก็ตาม หากคุณเรียกใช้แล้วไม่ทำงานหรือไม่สามารถซ่อมแซมได้ โพสต์นี้จะช่วยคุณแก้ไข
SFC ไม่ทำงานหรือจะไม่ทำงานใน Windows 11/10
บางครั้งคุณอาจต้องเรียกใช้ SFC สองหรือสามครั้งหรือเรียกใช้ในเซฟโหมด หากคุณพบว่า System File Checker ของคุณไม่ทำงานหรือไม่ทำงานหรือไม่สามารถซ่อมแซมได้ด้วยเหตุผลบางประการ คุณสามารถลองซ่อมแซม Component Store และดูว่าจะช่วยได้หรือไม่
ให้เรียกใช้ CMD ในฐานะผู้ดูแลระบบ พิมพ์ต่อไปนี้และกด Enter อาจใช้เวลาถึง 15 นาที หลังจากงานสิ้นสุดลง ให้รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์และดูว่าช่วยได้หรือไม่:
Dism /Online /Cleanup-Image /RestoreHealth
คุณสามารถลองเรียกใช้ System File Checker ใน Safe Mode, Boot Time หรือ Offline
อ่าน :
- Windows Resource Protection ไม่สามารถดำเนินการตามที่ร้องขอได้
- Windows Resource Protection ไม่สามารถดำเนินการตามที่ร้องขอได้
- Windows Resource Protection พบไฟล์ที่เสียหายแต่ไม่สามารถแก้ไขบางไฟล์ได้
ตัวตรวจสอบไฟล์ระบบไม่สามารถซ่อมแซมไฟล์สมาชิกที่เสียหายได้
หากคุณประสบปัญหานี้ คุณจะแทนที่ไฟล์ที่เสียหายด้วยตนเองด้วยไฟล์ฟอร์ก คุณจะต้องค้นหา DLL จาก Windows ISO หรือคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น จดบันทึกเส้นทางของไฟล์ที่เสียหาย และคัดลอกไฟล์เวอร์ชันใหม่ไปยังคอมพิวเตอร์ของคุณ
จากนั้นเปิด Command Prompt โดยให้สิทธิ์ผู้ดูแลระบบโดยพิมพ์ cmd ในช่อง Run (Win + R) จากนั้นกด Shift + Enter
พิมพ์คำสั่งต่อไปนี้ในพรอมต์คำสั่งแล้วกด Enter คำสั่งลบออกจะอนุญาตให้คุณเข้าถึงไฟล์ใหม่ได้
takeown /f Path_And_File_Name
โดยที่ Path_And_File_Name คือตำแหน่งที่แน่นอนของไฟล์ที่เสียหาย
ดำเนินการคำสั่งต่อไปนี้เพื่อให้สิทธิ์ผู้ดูแลระบบเข้าถึงไฟล์ได้อย่างเต็มที่
icacls คำสั่งสามารถแสดงหรือแก้ไขรายการควบคุมการเข้าถึงตามที่เห็นสมควร (DACLs) ในไฟล์ที่ระบุได้
icacls Path_And_File_Name /GRANT ADMINISTRATORS:F
ตัวอย่างเช่น พิมพ์:
icacls C:\Windows\system32\corruptfile.dll /grant administrators:F
จากนั้นแทนที่ไฟล์ด้วยสำเนาไฟล์ที่ทราบว่าใช้งานได้:
Copy Path_And_File_Name_Of_Source_File Path_And_File_Name_Of_Destination
ตัวอย่างเช่น พิมพ์:
copy E:\temp\corruptfile.dll E:\windows\system32\corruptfile.dll
หากไม่ได้ผล คุณอาจลองใช้การคืนค่าระบบ รีเฟรชพีซี หรือรีเซ็ตพีซี
เราหวังว่าคุณจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้
อ่านเลย :วิธีสแกนและซ่อมแซมไฟล์เดียวโดยใช้ System File Checker