ในปัญหานี้ เราได้รับค่าจำนวนเต็ม N หน้าที่ของเราคือสร้างโปรแกรมเพื่อค้นหาหมายเลข nth Hermite
เฮอร์ไมต์นัมเบอร์ คือ ตัวเลข คือ ค่าของเลขฤาษีเมื่อมีอาร์กิวเมนต์ 0 รายการ
Nth hermite Number is HN = (-2) * (N - 1) * H(N-2) The base values are H0 = 1 and H0 = 0.
ลำดับของฤาษีคือ − 1, 0, -2, 0, 12, 0, -120, 0, 1680, 0….
มาดูตัวอย่างเพื่อทำความเข้าใจปัญหากัน
อินพุต
N = 7
ผลลัพธ์
0
อินพุต
N = 6
ผลลัพธ์
-120
แนวทางการแก้ปัญหา
วิธีแก้ปัญหาง่ายๆ คือ การใช้สูตรเลขฤาษี ซึ่งทำได้โดยใช้การเรียกซ้ำ เราจะหา N th ระยะเวลา.
โปรแกรมเพื่อแสดงการทำงานของโซลูชันของเรา
ตัวอย่าง
#include <iostream> using namespace std; int calcNHermiteNumber(int N) { if (N == 0) return 1; if (N % 2 == 1) return 0; else return -2 * (N - 1) * calcNHermiteNumber(N - 2); } int main() { int N = 10; cout<<"The "<<N<<"th hermite Number is "<<calcNHermiteNumber(N); return 0; }
ผลลัพธ์
The 10th hermite Number is -30240
แนวทางที่มีประสิทธิภาพ
วิธีที่มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาคือการใช้สูตร เราสามารถหาสูตรทั่วไปโดยใช้สูตรแบบเรียกซ้ำได้
ในที่นี้ หากค่าของ N เป็นเลขคี่ เลขฤาษีจะเป็น 0
ถ้าค่าของ N เป็นเลขคู่ ก็จะเป็นค่าที่กำหนดโดยสูตร
HN = ( (-1)(N/2)) * ( 2(N/2) ) * (N-1)!!
เดอะ (N-1)!! เป็นกึ่งแฟกทอเรียลซึ่งคำนวณได้เป็น (n-1)*(n-3)*...3*1.
โปรแกรมเพื่อแสดงการทำงานของโซลูชันของเรา
ตัวอย่าง
#include <iostream> #include <math.h> using namespace std; int calcSemiFact(int n) { int factVal = 1; for (int i = 1; i <= n; i = i + 2) { factVal *= i; } return factVal; } int calcNHermiteNumber(int n) { if (n % 2 == 1) return 0; int HermiteNumber = (pow(2, n / 2)) * calcSemiFact(n - 1); if ((n / 2) % 2 == 1) HermiteNumber *= -1; return HermiteNumber; } int main() { int N = 10; cout<<"The "<<N<<"th hermite Number is "<<calcNHermiteNumber(N); return 0; }
ผลลัพธ์
The 10th hermite Number is -30240