เราได้รับอาร์เรย์ของตัวเลข Arr[] เป้าหมายคือการนับจำนวนแฝดที่มีผลิตภัณฑ์เท่ากับจำนวนที่กำหนด p สามารถมีแฝดสามที่มีค่าเท่ากันแต่องค์ประกอบต่างกันได้มากกว่าหนึ่งตัว ตัวอย่างเช่น (1,2,3) และ (3,1,2) ในอาร์เรย์ [1,2,3,1,2] จะถูกนับว่าแตกต่างกันหากองค์ประกอบต่างกัน แต่ค่าเหมือนกัน
มาทำความเข้าใจกับตัวอย่างกัน
ป้อนข้อมูล − arr[]={ 1,2,3,2,4,1,5 }, p=4
ผลผลิต − จำนวนแฝดสาม:3
คำอธิบาย −
Triplet 1[ 1,2,3,2,4,1,5 ] → (1,2,2) product=4 Triplet 2 [ 1,2,3,2,4,1,5 ] → (1,4,1) product=4 Triplet 3 [ 1,2,3,2,4,1,5 ] → (2,2,1) product=4 Number of triplets with product 4 is 3.
ป้อนข้อมูล − arr[]={ 1,1,2,1,2,2 }, p=8
ผลผลิต − จำนวนแฝด − 1
คำอธิบาย −
Triplet 1 [ 1,1,2,1,2,2 ] → (2,2,2) product=8 Number of triplets with product 8 is 1
แนวทางที่ใช้ในโปรแกรมด้านล่างมีดังนี้
-
เราใช้อาร์เรย์จำนวนเต็ม Arr[] ที่เริ่มต้นด้วยตัวเลขสุ่ม
-
ใช้ผลิตภัณฑ์ผันแปรที่เก็บมูลค่าผลิตภัณฑ์ N เก็บความยาวของ Arr[].
-
ฟังก์ชัน countTriplets(int arr[],int n,int p) รับอาร์เรย์ ความยาว และผลิตภัณฑ์ของอาร์เรย์เป็นอินพุต และคืนค่า triplets ที่มีผลลัพธ์เท่ากับ p
-
นำตัวแปรเริ่มต้นนับเป็น 0 สำหรับจำนวนแฝดสาม
-
ใช้ตัวแปรเริ่มต้นเป็นผลคูณของแฝดสามแต่ละตัว เริ่มแรก 1.
-
Traverse array ใช้สาม for loops สำหรับแต่ละองค์ประกอบของ triplet
-
วงนอกสุดจาก 0<=i
-
คำนวณ prod=arr[i]*arr[j]*arr[k] ถ้า prod==p ก็นับการเพิ่ม
-
เมื่อสิ้นสุดการวนซ้ำทั้งหมดจะนับจำนวน triplets ทั้งหมดที่ตรงตามเงื่อนไข
-
คืนจำนวนตามผลลัพธ์ที่ต้องการ
ตัวอย่าง
#include <bits/stdc++.h> using namespace std; int countTriplets(int arr[],int n,int p){ int count = 0; int prod=1; for (int i = 0; i < n-2; i++){ for (int j = i+1; j < n-1; j++){ for (int k = j+1; k < n; k++){ prod=arr[i]*arr[j]*arr[k]; if ( prod==p ){ count++; // cout<<endl<<"a :"<<arr[i]<<" b :"<<arr[j]<<" c :"<<arr[k]; //to print } } } } } return count; } int main(){ int Arr[]={ 1,2,3,6,1,6,3,2,1}; int N=9; //length of array int product=6; cout <<endl<< "Number of triplets : "<<countTriplets(Arr,N,product); return 0; }
ผลลัพธ์
หากเราเรียกใช้โค้ดข้างต้น มันจะสร้างผลลัพธ์ต่อไปนี้ -
Number of triplets : 18.