ฟังก์ชัน cosh() ส่งคืนค่าไฮเปอร์โบลิกโคไซน์ของมุมที่กำหนดเป็นเรเดียน เป็นฟังก์ชัน inbuilt ใน C++ STL
ไวยากรณ์ของฟังก์ชัน cosh() มีดังต่อไปนี้
cosh(var)
ดังที่เห็นได้จากไวยากรณ์ ฟังก์ชัน cosh() ยอมรับพารามิเตอร์ var ของประเภทข้อมูล float, double หรือ long double ส่งกลับค่าไฮเปอร์โบลิกโคไซน์ของ var
โปรแกรมที่แสดง cosh() ใน C++ มีดังต่อไปนี้ -
ตัวอย่าง
#include#include ใช้เนมสเปซ std;int main() { double d =5, ans; ตอบ =cosh(d); cout <<"cosh("< ผลลัพธ์
cosh(5) =74.2099ในโปรแกรมข้างต้น ก่อนอื่นตัวแปร d จะถูกเตรียมใช้งาน จากนั้นจะพบไฮเปอร์โบลิกโคไซน์ของ d โดยใช้ cosh() และเก็บไว้ใน ans ในที่สุดค่าของ ans จะปรากฏขึ้น สิ่งนี้แสดงให้เห็นโดยข้อมูลโค้ดต่อไปนี้
double d =5, ans;ans =cosh(d);cout <<"cosh("<หากระบุค่าเป็นองศา ค่าจะถูกแปลงเป็นเรเดียนก่อนใช้ฟังก์ชัน cosh() เนื่องจากจะคืนค่าไฮเปอร์โบลิกโคไซน์ของมุมที่กำหนดเป็นเรเดียน โปรแกรม A แสดงให้เห็นดังนี้
ตัวอย่าง
#include#include ใช้เนมสเปซ std;int main() { ระดับสองเท่า =60, ans; องศา =องศา * 3.14159/180; ans =cosh(ดีกรี); cout <<"cosh("< ผลลัพธ์
cosh(1.0472) =1.60029ในโปรแกรมข้างต้น ค่าจะกำหนดเป็นดีกรี ดังนั้นมันจึงถูกแปลงเป็นเรเดียน จากนั้นจะได้ไฮเปอร์โบลิกโคไซน์โดยใช้ cosh() ในที่สุด ผลลัพธ์จะปรากฏขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นโดยข้อมูลโค้ดต่อไปนี้
double degree =60, ans;degree =degree * 3.14159/180;ans =cosh(degree);cout <<"cosh("<