ตัวหารร่วมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด (GCD) ของตัวเลขสองตัวคือจำนวนที่มากที่สุดที่หารทั้งสองตัว
ตัวอย่างเช่น สมมติว่าเรามีตัวเลขสองตัวคือ 45 และ 27
45 = 5 * 3 * 3 27 = 3 * 3 * 3
ดังนั้น GCD ของ 45 และ 27 คือ 9
มีโปรแกรมค้นหา GCD ของตัวเลขสองตัวดังนี้
ตัวอย่าง
#include <iostream> using namespace std; int gcd(int a, int b) { if (b == 0) return a; return gcd(b, a % b); } int main() { int a = 105, b = 30; cout<<"GCD of "<< a <<" and "<< b <<" is "<< gcd(a, b); return 0; }
ผลลัพธ์
GCD of 105 and 30 is 15
ในโปรแกรมข้างต้น gcd() เป็นฟังก์ชันแบบเรียกซ้ำ มันมีพารามิเตอร์สองตัวคือ a และ b ถ้า b มากกว่า 0 แล้ว a จะถูกส่งกลับไปยังฟังก์ชัน main() มิฉะนั้น gcd() ฟังก์ชันจะเรียกตัวเองซ้ำด้วยค่า b และ a%b สิ่งนี้แสดงให้เห็นโดยข้อมูลโค้ดต่อไปนี้ -
int gcd(int a, int b) { if (b == 0) return a; return gcd(b, a % b); }
โปรแกรมอื่นเพื่อค้นหา GCD ของตัวเลขสองตัวมีดังนี้ -
ตัวอย่าง
#include<iostream> using namespace std; int gcd(int a, int b) { if (a == 0 || b == 0) return 0; else if (a == b) return a; else if (a > b) return gcd(a-b, b); else return gcd(a, b-a); } int main() { int a = 105, b =30; cout<<"GCD of "<< a <<" and "<< b <<" is "<< gcd(a, b); return 0; }
ผลลัพธ์
GCD of 105 and 30 is 15
ในโปรแกรมข้างต้น gcd() เป็นฟังก์ชันแบบเรียกซ้ำ มันมีพารามิเตอร์สองตัวคือ a และ b ถ้า a หรือ b เป็น 0 ฟังก์ชันจะคืนค่า 0 ถ้า a หรือ b เท่ากัน ฟังก์ชันจะคืนค่า a ถ้า a มากกว่า b ฟังก์ชันจะเรียกตัวเองซ้ำด้วยค่า a-b และ b ถ้า b มากกว่า a ฟังก์ชันจะเรียกตัวเองซ้ำด้วยค่า a และ (b - a) สิ่งนี้แสดงให้เห็นโดยข้อมูลโค้ดต่อไปนี้
int gcd(int a, int b) { if (a == 0 || b == 0) return 0; else if (a == b) return a; else if (a > b) return gcd(a - b, b); else return gcd(a, b - a); }