หน้าแรก
หน้าแรก
MySQL BOOLEAN และ BOOL เทียบเท่ากับ TINYINT(1) เมื่อใดก็ตามที่คุณสร้างคอลัมน์โดยใช้ชนิดข้อมูล BOOLEAN และ BOOL MySQL จะแปลง BOOLEAN และ BOOL เป็น TINYINT(1) โดยปริยาย บูลีนและบูลเทียบเท่ากับ TINYINT(1) เนื่องจากเป็นคำพ้องความหมาย สร้างตารางโดยใช้ชนิดข้อมูลบูลีน แบบสอบถามเพื่อสร้างตาราง );ตกลง ตกลง
หากต้องการแสดงตัวแปรการกำหนดค่าปัจจุบัน คุณสามารถใช้คำสั่ง show ไวยากรณ์มีดังนี้ − แสดงตัวแปร คุณสามารถเขียนไวยากรณ์ข้างต้นใหม่เพิ่มเติมด้วยตัวดำเนินการ LIKE ไวยากรณ์มีดังนี้ − แสดงตัวแปรเช่น %anyStringValue%; แบบสอบถามดังต่อไปนี้แสดงตัวอย่างเพื่อดึงตัวแปรการกำหนดค่าบางส่วน - แสดงตัวแปรเช่น %max%
MySQL CASE ทำงานเหมือนกับคำสั่ง switch ไวยากรณ์ของ CASE มีดังนี้ − กรณีที่ 1 - เปรียบเทียบคำสั่ง กรณีที่ anyCompareStatement จากนั้น value1 เมื่อ anyCompareStatement แล้ว value2..Nelse anyValueend เป็น anyVariableName; กรณีที่ 2 – เงื่อนไข ไวยากรณ์ที่สองสามารถใช้ได้เมื่อคุณเลือกคอลัมน์เดียวเท่านั้น
เมื่อใดก็ตามที่คอลัมน์ของคุณมีคีย์หลักที่เพิ่มค่าอัตโนมัติ มีประโยชน์ที่คุณไม่จำเป็นต้องให้ค่าสำหรับคอลัมน์นั้นในคำสั่ง INSERT ซึ่งหมายความว่า MySQL จะให้ค่าสำหรับคอลัมน์นั้น เพื่อให้เข้าใจแนวคิดข้างต้น ให้เราสร้างตารางก่อน แบบสอบถามเพื่อสร้างตารางมีดังนี้ − );Query OK, 0 แถวได้รับผลกระทบ (0.56 วิ
ไวยากรณ์สำหรับการอัปเดตจำนวนมากด้วย CASE WHEN/ THEN/ ELSE มีดังนี้ - เพื่อทำความเข้าใจไวยากรณ์ข้างต้น ให้เราสร้างตารางก่อน แบบสอบถามเพื่อสร้างตารางมีดังนี้ − );ตกลง ตกลง 0 แถวได้รับผลกระทบ (0.78 วินาที) แทรกบางระเบียนในตารางโดยใช้คำสั่งแทรก แบบสอบถามมีดังนี้ − แทรกลงในค่า CaseUpdateDemo (4,Bob);
ฟังก์ชัน now() คืนค่าเวลาคงที่ที่แสดงเวลาที่คำสั่งเริ่มดำเนินการ ฟังก์ชัน sysdate() จะคืนค่าวันที่และเวลาเดียวกันกับที่เรียกใช้คำสั่งจาก MySQL 5.0.13 สมมติว่าคุณกำลังอัปเดต datetime ด้วย now() ในทริกเกอร์หรือกระบวนงานที่เก็บไว้ วิธีการ now() จะคืนค่าเวลาที่กระบวนการทริกเกอร์และการจัดเก็บเริ่มทำงาน
หากต้องการวนซ้ำทุกแถวของตาราง ให้ใช้กระบวนงานที่เก็บไว้ใน MySQL ไวยากรณ์มีดังนี้ − ตัวคั่น //CREATE PROCEDURE yourProcedureName()BEGIN DECLARE anyVariableName1 INT DEFAULT 0;DECLARE anyVariableName2 INT DEFAULT 0;SELECT COUNT(*) FROM yourTableName1 INTO anyVariableName1;SET anyVariableName2 =0;WHILE
อัปเดตข้อมูลเพียงเซลล์เดียวโดยใช้คำสั่ง UPDATE ไวยากรณ์มีดังนี้ − อัปเดต yourTableName yourColumnName=yourNewValue whereyourColumnName=yourOldValue; เพื่อให้เข้าใจแนวคิดข้างต้น ให้เราสร้างตารางก่อน แบบสอบถามเพื่อสร้างตารางมีดังนี้ − );Query OK, 0 แถวได้รับผลกระทบ (0.81 วินาที) แทรกบางระเบียนในตาร
หากต้องการให้ผู้ใช้เข้าสู่ระบบวันนี้ ให้ใช้ไวยากรณ์ด้านล่าง ที่นี่ เราคาดว่าฟิลด์วันที่และเวลาของคุณจะเป็นประเภทสตริง - select yourColumnName1,yourColumnName2,yourColumnName3,...Nfrom youTableNameWHERE STR_TO_DATE(yourColumnName1, format) =CURDATE(); สมมติว่าเรามีตาราง DateEqualToday ต่อไปนี้ซึ่งเก
จัดรูปแบบวันที่ วว/ดด/ปปปป โดยใช้เลือกและเรียงลำดับโดยเรียงลำดับจากมากไปน้อย ไวยากรณ์มีดังนี้ − SELECT *FROM yourTableNamewhere yourDatetimeColumnName order bySTR_TO_DATE(yourDatetimeColumnName,’%d/%m%Y’) desc; ไวยากรณ์ข้างต้นจะให้วันที่ในลำดับจากมากไปน้อย เพื่อให้เข้าใจไวยากรณ์ข้างต้น ให้เราสร้างต
ต่อไปนี้เป็นไวยากรณ์ที่จะทำงานกับ FOR LOOP ในกระบวนงานที่เก็บไว้ของ MySQL - anyVariableName3 จากนั้นให้ออกจาก loop_label; สิ้นสุดถ้า; SET anyVariableName2 =CONCAT(anyVariableName2 ,anyVariableName1 ,,); SET anyVariableName1 =anyVariableName1 + 1; ITERATE loop_label; สิ้นสุด FORLOOP เลือก anyVariabl
ในการเก็บทศนิยมใน MySQL คุณต้องเข้าใจพารามิเตอร์ทั้งสอง ไวยากรณ์มีดังนี้ − DECIMAL(yourTotalDigit,yourDigitsAfterDecimalPoint); ตัวอย่างเช่น − DECIMAL(4,2) หมายความว่าคุณสามารถใช้ผลรวม 4 หลักและ 2 หลักหลังจุดทศนิยม พารามิเตอร์แรกมีค่าไม่เกิน 2 ก่อนจุดทศนิยม พารามิเตอร์ที่ 2 คือตัวเลขหลังจุดทศนิย
คุณสามารถใช้ฟังก์ชัน date-sub() และ now() จาก MySQL เพื่อดึงข้อมูลแถวที่เพิ่มในชั่วโมงที่แล้ว ไวยากรณ์ ไวยากรณ์มีดังนี้ − เลือก *จาก yourTableNamewhere yourDateTimeColumnName <=date_sub(now(),ช่วง 1 ชั่วโมง); แบบสอบถามข้างต้นให้ผลลัพธ์ที่เพิ่มในชั่วโมงที่แล้ว เพื่อให้เข้าใจแนวคิดข้างต้น ให้เราสร้า
ให้เราเรียนรู้บางประเด็นเกี่ยวกับประเภท TINYINT ใน MySQL - ประเภท TINYINT ใช้เวลา 1 ไบต์ เช่น 8 บิต TINYINT(N) โดยที่ N จะระบุความกว้างของการแสดงผลที่คุณต้องการ ตัวอย่างเช่น สามารถใช้ TINYINT(1) เพื่อแสดงความกว้างซึ่งเท่ากับ 1 ให้เราเรียนรู้เกี่ยวกับค่าต่ำสุดและสูงสุด - ค่าสูงสุดของ Tinyint คือ=
หากต้องการค้นหาฟิลด์สตริงที่มีความยาวเฉพาะ ให้ใช้ char_length() หรือ length() จาก MySQL ไวยากรณ์ ไวยากรณ์มีดังนี้ − กรณีที่ 1 − การใช้ char_length() สามารถใช้เมื่อเราใส่ความยาวเป็นจำนวนอักขระ ไวยากรณ์ − เลือก *จาก yourTableName wherechar_length(yourColumnName)=anySpecificLengthValue; กรณีที่ 2 − ก
หากต้องการเรียงลำดับตามความเกี่ยวข้อง ให้ใช้คำสั่ง case เพื่อให้เข้าใจแนวคิด ให้เราสร้างตาราง แบบสอบถามเพื่อสร้างตารางมีดังนี้ − );Query OK, 0 แถวได้รับผลกระทบ (0.51 วินาที) ตอนนี้คุณสามารถแทรกบางระเบียนในตารางโดยใช้คำสั่งแทรก แบบสอบถามมีดังนี้ − แทรกลงในค่า OrderByRelevance (105, Sam Carol Bond)
คุณทำได้โดยใช้วิธี timestampdiff() จาก MySQL ไวยากรณ์มีดังนี้ − ไวยากรณ์ เลือก ABS(TIMESTAMPDIFF(HOUR,yourColumnName1,yourColumnName2)) asanyVariableName จาก yourTableName; เพื่อให้เข้าใจไวยากรณ์ข้างต้น ให้เราสร้างตาราง แบบสอบถามเพื่อสร้างตารางมีดังนี้ − );Query OK, 0 แถวได้รับผลกระทบ (0.59 วินาที
หากต้องการรับดัชนีของสตริงย่อยสุดท้ายในสตริงที่กำหนด ให้ใช้ฟังก์ชัน char_length() อันดับแรก เราต้องคำนวณความยาวของสตริงและลบความยาวสตริงย่อยสุดท้ายออกจากความยาวทั้งหมด ความแตกต่างของความยาวคือดัชนีของสตริงย่อย ไวยากรณ์ ไวยากรณ์มีดังนี้ - เลือก CHAR_LENGTH(yourColumnName) - LOCATE(yourDelimiter ,REVE
ใน BIGINT(8) หมายเลข 8 หมายถึงวิธีการแสดงข้อมูล ไม่มีผลต่อการจัดเก็บ ตัวเลขที่ใช้แสดงความกว้าง BIGINT ใช้เวลา 8 ไบต์ เช่น 64 บิต ช่วงที่ลงนามคือ -9223372036854775808 ถึง 9223372036854775807 และช่วงที่ไม่ได้ลงนามจะใช้ค่าบวก ช่วงของ unsigned คือ 0 ถึง 18446744073709551615 เพื่อให้เข้าใจ bigint(8) ให
คุณสามารถใช้ฟังก์ชันในตัว from_unixtime() เพื่อแปลง INT เป็น DATETIME ไวยากรณ์มีดังนี้ − เลือก FROM_UNIXTIME(yourColumnName,%Y-%m-%d) เป็น AnyVariableName จาก yourTableName; เพื่อให้เข้าใจไวยากรณ์ข้างต้น ให้เราสร้างตารางก่อน แบบสอบถามเพื่อสร้างตารางมีดังนี้ − ); ตกลง ตกลง 0 แถวได้รับผลกระทบ (0.59