เมื่อจำเป็นต้องเพิ่มองค์ประกอบที่สอดคล้องกันของตำแหน่งเฉพาะในสองรายการที่เชื่อมโยง วิธีการเพิ่มองค์ประกอบไปยังรายการที่เชื่อมโยง วิธีการพิมพ์องค์ประกอบของรายการที่เชื่อมโยง และวิธีการเพิ่มองค์ประกอบไปยังตำแหน่งที่เชื่อมโยง รายการถูกกำหนด มีการสร้างอินสแตนซ์รายการสองรายการและมีการเรียกใช้เมธอดที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ในอินสแตนซ์รายการที่เชื่อมโยงเหล่านี้
ด้านล่างนี้เป็นการสาธิตสำหรับสิ่งเดียวกัน -
ตัวอย่าง
class Node: def __init__(self, data): self.data = data self.next = None class LinkedList_structure: def __init__(self): self.head = None self.last_node = None def add_vals(self, data): if self.last_node is None: self.head = Node(data) self.last_node = self.head else: self.last_node.next = Node(data) self.last_node = self.last_node.next def print_it(self): curr = self.head while curr is not None: print(curr.data) curr = curr.next def add_linked_list(my_list_1, my_list_2): sum_list = LinkedList_structure() curr_1 = my_list_1.head curr_2 = my_list_2.head while (curr_1 and curr_2): sum_val = curr_1.data + curr_2.data sum_list.add_vals(sum_val) curr_1 = curr_1.next curr_2 = curr_2.next if curr_1 is None: while curr_2: sum_list.add_vals(curr_2.data) curr_2 = curr_2.next else: while curr_1: sum_list.add_vals(curr_1.data) curr_1 = curr_1.next return sum_list my_list_1 = LinkedList_structure() my_list_2 = LinkedList_structure() my_list = input('Enter the elements of the first linked list : ').split() for elem in my_list: my_list_1.add_vals(int(elem)) my_list = input('Enter the elements of the second linked list : ').split() for elem in my_list: my_list_2.add_vals(int(elem)) sum_list = add_linked_list(my_list_1, my_list_2) print('The sum of elements in the linked list is ') sum_list.print_it()
ผลลัพธ์
Enter the elements of the first linked list : 56 34 78 99 54 11 Enter the elements of the second linked list : 23 56 99 0 122 344 The sum of elements in the linked list is 79 90 177 99 176 355
คำอธิบาย
-
สร้างคลาส "โหนด" แล้ว
-
'LinkedList_structure' คลาสอื่นพร้อมแอตทริบิวต์ที่จำเป็นจะถูกสร้างขึ้น
-
มีฟังก์ชัน 'init' ที่ใช้ในการเริ่มต้นองค์ประกอบแรก นั่นคือ 'head' เป็น 'None'
-
มีการกำหนดเมธอดชื่อ 'add_vals' ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสแต็ก
-
มีการกำหนดวิธีการอื่นที่ชื่อว่า 'print_it' ที่ช่วยแสดงค่าของรายการที่เชื่อมโยง
-
มีการกำหนดวิธีการอื่นที่ชื่อว่า 'add_linked_list' ซึ่งช่วยเพิ่มองค์ประกอบที่สอดคล้องกันของสองรายการที่เชื่อมโยง
-
'LinkedList_structure' สองอินสแตนซ์ถูกสร้างขึ้น
-
เพิ่มองค์ประกอบลงในทั้งรายการที่เชื่อมโยง
-
วิธีการ 'add_linked_list' ถูกเรียกในรายการที่เชื่อมโยงเหล่านี้
-
เอาต์พุตจะแสดงบนคอนโซล