ขณะพยายามเรียกใช้ตัวแก้ไขปัญหา Windows Update คุณได้รับ – ปัญหากับบริการ BITS:บริการที่ร้องขอได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว มีความช่วยเหลือเพิ่มเติมโดยพิมพ์ NET HELPMG 2182 ข้อความแสดงข้อผิดพลาด โพสต์นี้จะช่วยคุณแก้ไขปัญหา
NET HELPMG 2182 มีปัญหากับบริการ BITS
ข้อผิดพลาด NET HELPMG 2182 เกิดจากบริการที่เกี่ยวข้องกับ Windows Updates เสียหาย ไฟล์ระบบเสียหาย หรือ Windows Updates ไม่ดีซึ่งผลักดันการเปลี่ยนแปลงที่เสียหายไปยังระบบ
- เรียกใช้ SFC
- เรียกใช้ DISM เพื่อซ่อมแซมส่วนประกอบ Windows Update
- ตรวจสอบสถานะของ Background Intelligent Transfer Service
- เรียกใช้เครื่องมือแก้ปัญหาบริการถ่ายโอนข้อมูลเบื้องหลัง
ลองใช้วิธีแก้ปัญหาต่อไปนี้ทีละตัวเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาด NET HELPMG 2182 :
1] เรียกใช้ SFC
เรียกใช้ System File Checker เพื่อซ่อมแซมไฟล์ระบบที่อาจเสียหาย
2] เรียกใช้ DISM เพื่อซ่อมแซมส่วนประกอบ Windows Update
คุณอาจต้องแก้ไขไฟล์ระบบ Windows Update ที่เสียหายโดยใช้ DISM Tool
ในการแก้ไขความเสียหายของ Windows Update ให้เปิดหน้าต่างพร้อมท์คำสั่งที่ยกระดับและดำเนินการคำสั่งต่อไปนี้:
DISM.exe /Online /Cleanup-image /Restorehealth
จากนั้นคุณจะต้องเรียกใช้คำสั่งต่อไปนี้แทน:
DISM.exe /Online /Cleanup-Image /RestoreHealth /Source:C:\RepairSource\Windows /LimitAccess
ที่นี่คุณต้องแทนที่ C:\RepairSource\Windows ตัวยึดกับตำแหน่งของแหล่งซ่อมของคุณ
เมื่อกระบวนการเสร็จสมบูรณ์ DISM จะสร้างไฟล์บันทึกใน %windir%/Logs/CBS/CBS.log และบันทึกปัญหาใดๆ ที่เครื่องมือพบหรือแก้ไข
ปิดพรอมต์คำสั่ง แล้วเรียกใช้ Windows Update อีกครั้งและพบว่ามีประโยชน์
หนึ่งในสาเหตุของข้อผิดพลาด NET HELMPSG 2182 เป็นไฟล์ระบบที่เสียหาย การสแกน SFC และ DISM อาจมีประโยชน์มากในการระบุไฟล์ที่เสียหายและสูญหาย และแทนที่หากเป็นไปได้
3] ตรวจสอบสถานะของ Background Intelligent Transfer Service
ตรวจสอบสถานะของ Background Intelligent Transfer Service:
- เรียกใช้ services.msc เพื่อเปิดตัวจัดการบริการและค้นหา Background Intelligent Transfer Service
- ถ้าหยุด ให้คลิกขวาและเลือกเริ่ม หากเป็น Started ให้คลิกขวาและเลือก Restart
- ดับเบิลคลิกที่บริการเพื่อเปิดกล่องคุณสมบัติ
- ควรตั้งค่าประเภทการเริ่มต้นใช้งานเป็นแบบแมนนวล
4] เรียกใช้เครื่องมือแก้ปัญหาบริการถ่ายโอนเบื้องหลังอัจฉริยะ
ดาวน์โหลดและเรียกใช้เครื่องมือแก้ปัญหา Background Intelligent Transfer Service จะสแกนระบบ Windows ของคุณเพื่อหาสาเหตุที่เป็นไปได้ และเมื่อพบปัญหา ระบบจะแสดงรายการให้คุณ
5] เรียกใช้การอัปเดต Windows
เรียกใช้ Windows Update ด้วยตนเองเพื่อดูว่า Microsoft ได้ส่งโปรแกรมแก้ไขเพื่อแก้ไขการอัปเดตที่แย่ก่อนหน้านี้หรือไม่
วิธีนี้น่าจะแก้ปัญหาของคุณได้