หน้าแรก
หน้าแรก
ในบทช่วยสอนนี้ เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการอัปเดตส่วนหนึ่งของค่าสตริงที่จัดเก็บไว้ในคีย์ที่ระบุในที่เก็บข้อมูล redis สำหรับสิ่งนี้ เราจะใช้ Redis SETRANGE คำสั่ง คำสั่งSETRANGE คำสั่งนี้จะเริ่มต้น (รวม) ออฟเซ็ต ซึ่งกำหนดดัชนีเริ่มต้นของส่วนที่อัปเดตของค่าสตริง หากออฟเซ็ตเริ่มต้นมากกว่าความยาวของค
ในบทช่วยสอนนี้ เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีตั้งค่าใหม่และคืนค่าสตริงเก่าของคีย์ สำหรับสิ่งนี้ เราจะใช้ Redis GETSET คำสั่ง คำสั่ง GETSET คำสั่งนี้ตั้งค่าสตริงใหม่ที่คีย์ที่ระบุและส่งกลับค่าสตริงเก่า ส่งคืนค่า NIL หากไม่มีคีย์และส่งคืนข้อผิดพลาด หากมีคีย์ แต่ค่าที่เก็บไว้ที่คีย์ไม่ใช่สตริง ไวยากรณ์ขอ
ในบทช่วยสอนนี้ เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีสร้างและเพิ่มองค์ประกอบในค่าที่ตั้งไว้ที่คีย์ โดยใช้คำสั่ง – SADD ใน redis-cli หากมีคีย์อยู่ใน datastore อิลิเมนต์ที่ระบุทั้งหมดจะถูกเพิ่ม (ละเว้นองค์ประกอบที่มีอยู่แล้ว ) ไปยังชุด มิฉะนั้นจะมีการสร้างชุดใหม่ก่อนที่จะเพิ่มเข้าไปในชุด ไวยากรณ์ของคำสั่ง redis S
ในบทช่วยสอนนี้ เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีรับความยาวของค่ารายการที่เก็บอยู่ที่คีย์ สำหรับสิ่งนี้ เราจะใช้ Redis LLEN คำสั่ง คำสั่ง LLEN คำสั่งนี้ส่งคืนความยาว ( จำนวนองค์ประกอบ ) ของค่ารายการที่เก็บไว้ที่คีย์ หากไม่มีคีย์ในที่เก็บข้อมูล redis คีย์จะถูกตีความว่าเป็นรายการว่างและส่งคืน 0 ไวยากรณ์ของค
ในบทช่วยสอนนี้ เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีตั้งค่าองค์ประกอบใหม่ในค่ารายการที่จัดเก็บไว้ใน datastore redis สำหรับสิ่งนี้ เราจะใช้ Redis LSET คำสั่ง คำสั่ง LSET คำสั่งนี้ตั้งค่าองค์ประกอบใหม่ที่ดัชนีที่ระบุของค่ารายการที่เก็บอยู่ที่คีย์ ดัชนีมีค่าเป็นศูนย์ ดังนั้น 0 หมายถึงองค์ประกอบแรก 1 หมายถึงองค์
ในบทช่วยสอนนี้ เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีรับองค์ประกอบจากดัชนีเฉพาะของค่ารายการ สำหรับสิ่งนี้ เราจะใช้ Redis LINDEX คำสั่ง คำสั่ง LINEX คำสั่งนี้ส่งคืนองค์ประกอบที่เก็บไว้ที่ดัชนีที่ระบุของค่ารายการที่เก็บอยู่ที่คีย์ ดัชนีมีค่าเป็นศูนย์ ดังนั้น 0 หมายถึงองค์ประกอบแรก 1 หมายถึงองค์ประกอบที่สอง และอ
ในบทช่วยสอนนี้ เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีรับองค์ประกอบสุ่มตั้งแต่หนึ่งรายการขึ้นไปจากค่าที่ตั้งไว้ซึ่งจัดเก็บไว้ที่คีย์ สำหรับสิ่งนี้ เราจะใช้คำสั่ง – SRANMEMBER ใน redis-cli ไวยากรณ์ของคำสั่ง redis SRANDMEMBER มีดังนี้ :- ไวยากรณ์ :- redis host:post> SRANDMEMBER <key name> [count] ผลลั
ในบทช่วยสอนนี้ เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีลบองค์ประกอบออกจากค่าที่ตั้งไว้ที่คีย์ โดยใช้ redis SPOP และ SREM สั่งการ. คำสั่ง SPOP :- คำสั่งนี้จะลบและส่งคืนองค์ประกอบสุ่มตั้งแต่หนึ่งรายการขึ้นไปจากชุดที่จัดเก็บไว้ที่คีย์ที่ระบุ ไวยากรณ์ของคำสั่ง redis SPOP มีดังนี้ :- ไวยากรณ์ :- redis host:post&
ในบทช่วยสอนนี้ เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการแทรกองค์ประกอบใหม่รอบองค์ประกอบเดือยในรายการค่าที่เก็บไว้ที่คีย์ สำหรับสิ่งนี้ เราจะใช้ Redis LINSERT คำสั่ง คำสั่ง LINSERT คำสั่งนี้แทรกองค์ประกอบใหม่ในค่ารายการที่เก็บไว้ที่คีย์ที่ระบุ ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังองค์ประกอบเฉพาะ (Pivot) คืนค่า 0 เมื่อไม่มีคีย์
ในบทช่วยสอนนี้ เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการดำเนินการยูเนี่ยนกับชุดค่าตั้งแต่สองชุดขึ้นไปที่จัดเก็บในที่เก็บข้อมูล redis โดยใช้คำสั่ง redis SUNION และ SUNIONSTORE การรวมชุด: ในทฤษฎีเซต การรวมตัวกันของเซตตั้งแต่สองเซตขึ้นไปคือเซตที่มีองค์ประกอบทั้งหมด ( แตกต่าง ) ที่มีอยู่ในเซตทั้งหมด ตัวอย่างเช่น
ในบทช่วยสอนนี้ เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการดำเนินการทางแยกบนชุดค่าตั้งแต่สองชุดขึ้นไปที่จัดเก็บในที่เก็บข้อมูล redis โดยใช้คำสั่ง redis SINTER และ SINTERSTORE จุดตัดของเซต: ในทฤษฎีเซต จุดตัดของเซตตั้งแต่สองเซตขึ้นไปคือเซตที่มีองค์ประกอบที่เหมือนกันกับเซตทั้งหมด ตัวอย่างเช่น : A = {1, 2, 3, 4, 5}B
ในบทช่วยสอนนี้ เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการดำเนินการความแตกต่างของชุดค่าตั้งแต่สองชุดขึ้นไปที่จัดเก็บไว้ในที่เก็บข้อมูล redis โดยใช้คำสั่ง redis SDIFF และ SDIFFSTORE ความแตกต่างของเซต: ในทฤษฎีเซต ผลต่างของเซต A และ B สองชุด เขียนเป็น A – B คือเซตที่มีองค์ประกอบทั้งหมดของเซต A ที่ไม่อยู่ในเซต B ตั
ในบทช่วยสอนนี้ เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการตรวจสอบว่ามีคีย์ใน redis datastore หรือไม่โดยใช้คำสั่ง – EXISTS ใน redis-cli ไวยากรณ์ของคำสั่ง redis EXISTS มีดังนี้ :- ไวยากรณ์ :- redis host:post> EXISTS <key name> ผลลัพธ์ :- - 1 if key exist- 0 if key does not exist ตัวอย่าง :- ข้อมูลอ้า
ในบทช่วยสอนนี้ เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีลบเวลาหมดอายุ ( หมดเวลา ) ของคีย์ที่จัดเก็บไว้ในที่เก็บข้อมูล redis โดยใช้คำสั่ง – PERSIST ใน redis-cli เมื่อเราตั้งเวลาหมดอายุของคีย์โดยใช้ EXPIRE/PEXPIRE หรือ EXPIREAT/PEXPIREAT สถานะของคีย์จะกลายเป็น ผันผวน ( คีย์ที่มีกำหนดเวลาหมดอายุ ) คำสั่ง PERSIST เปล
ในบทช่วยสอนนี้ เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีลบคีย์ในที่เก็บข้อมูล redis โดยใช้คำสั่ง – DEL ใน redis-cli ไวยากรณ์ของคำสั่ง redis DEL มีดังนี้ :- ไวยากรณ์ :- redis host:post> DEL <key name> ผลลัพธ์ :- (integer) 1 if key is deleted(integer) 0 if key does not exists ตัวอย่าง :- อ้างอิง :-
ในบทช่วยสอนนี้ เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีรับคีย์สุ่มที่จัดเก็บไว้ใน datastore redis โดยใช้คำสั่ง – RANDOMKEY ใน redis-cli ไวยากรณ์ของคำสั่ง redis RANDOMKEY มีดังต่อไปนี้ :- ไวยากรณ์ :- redis host:post> RANDOMKEY ผลลัพธ์ :- - random key from datastore.- nil, if datastore is empty. ตัวอย่าง :-
ในบทช่วยสอนนี้ เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีตั้งเวลาหมดอายุ ( หมดเวลา ) บนคีย์ โดยใช้คำสั่ง redis EXPIRE, PEXPIRE, EXPIREAT และ PEXPIREAT เวลาหมดอายุเป็นวินาที :- ในการตั้งเวลาหมดอายุของคีย์เป็นวินาที เราจะใช้ redis EXPIRE คำสั่งใน redis-cli จำนวนวินาทีนี้แสดงถึงเวลาที่จะมีชีวิตอยู่ หากจำนวนวินาทีเ
ใน Redis คีย์ถูกใช้เป็นตัวระบุเฉพาะในการจัดเก็บ จัดการ และดึงค่าที่จัดเก็บไว้ในฐานข้อมูล สามารถจัดการคีย์ได้โดยใช้คำสั่ง Redis ใน redis-cli ไวยากรณ์สำหรับการใช้คำสั่ง Redis Key มีดังนี้ :- ไวยากรณ์ :- redis host:post> <Command Name> <key name> ตัวอย่าง :- คำสั่งคีย์ Redis :- ค
ในบทช่วยสอนนี้ เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการเปลี่ยนชื่อคีย์ในที่เก็บข้อมูล redis โดยใช้คำสั่ง redis RENAME และ RENAMENX RENAME Command :- คำสั่ง RENAME เปลี่ยนชื่อคีย์จากชื่อเก่าเป็นชื่อใหม่ หากมีคีย์ที่มีชื่อใหม่อยู่แล้ว คีย์นั้นจะถูกเขียนทับและคีย์ที่มีชื่อเก่าจะถูกลบออกโดยใช้คำสั่ง implicit DE
ในบทช่วยสอนนี้ เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีเก็บองค์ประกอบทั้งหมดของค่าที่ตั้งไว้ที่คีย์ โดยใช้คำสั่ง – SMEMBERS ใน redis-cli ไวยากรณ์ของคำสั่ง redis SMEMBERS มีดังนี้ :- ไวยากรณ์ :- redis host:post> SMEMBERS <key name> ผลลัพธ์ :- - array value, containing all elements of the set.- error,