สมมติว่าเรามีเมทริกซ์ขององค์ประกอบ M x N เราต้องหาองค์ประกอบทั้งหมดของเมทริกซ์ในลำดับแนวทแยง ดังนั้นหากเมทริกซ์เป็นเหมือน −
1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 |
ผลลัพธ์จะเป็น [1,2,4,7,5,3,6,8,9]
เพื่อแก้ปัญหานี้ เราจะทำตามขั้นตอนเหล่านี้ -
- สร้างอาร์เรย์ ret ตั้งค่าแถว :=0 และ col :=0, n :=จำนวนแถว m :=col นับ ลง :=false
- สำหรับ i ในช่วง 0 ถึง n – 1
- x :=i, y :=0
- สร้างอุณหภูมิอาร์เรย์
- ในขณะที่ x>=0 และ y
- แทรกเมทริกซ์[x,y] ลงในอุณหภูมิ และลด x ขึ้น 1 และเพิ่ม y ขึ้น 1
- ถ้า down เป็นจริง ให้กลับค่า temp array
- สำหรับ i ในช่วง 0 ถึงขนาดของ temp – 1 ให้ใส่ temp[i] ลงใน ret
- ลง :=ผกผันของลง
- x :=n – 1, y :=1, สร้างอุณหภูมิอาร์เรย์
- ในขณะที่ x>=0 และ y
- แทรกเมทริกซ์[x, y] ลงในอุณหภูมิและลด x ขึ้น 1 และเพิ่ม y ขึ้น 1
ให้เราดูการใช้งานต่อไปนี้เพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้น -
ตัวอย่าง
#include <bits/stdc++.h> using namespace std; void print_vector(vector<int> v){ cout << "["; for(int i = 0; i<v.size(); i++){ cout << v[i] << ", "; } cout << "]"<<endl; } class Solution { public: vector<int> findDiagonalOrder(vector<vector<int>>& matrix) { vector <int> ret; int row = 0; int col = 0; int n = matrix.size(); int m = n? matrix[0].size() : 0; bool down = false; for(int i = 0; i < n; i++){ int x = i; int y = 0; vector <int> temp; while(x >= 0 && y < m){ temp.push_back(matrix[x][y]); x--; y++; } if(down) reverse(temp.begin(), temp.end()); for(int i = 0; i < temp.size(); i++)ret.push_back(temp[i]); down = !down; } for(int i = 1; i < m; i++){ int x = n - 1; int y = i; vector <int> temp; while(x >= 0 && y < m){ temp.push_back(matrix[x][y]); x--; y++; } if(down) reverse(temp.begin(), temp.end()); for(int i = 0; i < temp.size(); i++)ret.push_back(temp[i]); down = !down; } return ret; } }; main(){ vector<vector<int>> v = {{1,2,3},{4,5,6},{7,8,9}}; Solution ob; print_vector(ob.findDiagonalOrder(v)); }
อินพุต
[[1,2,3],[4,5,6],[7,8,9]]
ผลลัพธ์
[1, 2, 4, 7, 5, 3, 6, 8, 9, ]