Computer >> คอมพิวเตอร์ >  >> การเขียนโปรแกรม >> C++

ฟังก์ชัน real( ) ใน c++


กำหนดให้เป็นหน้าที่ของฟังก์ชัน real( ) ใน C++

ฟังก์ชันนี้ใช้เพื่อค้นหาส่วนจริงของจำนวนเชิงซ้อน ฟังก์ชันนี้จะคืนค่าส่วนจริงของจำนวนเชิงซ้อนและตั้งค่าส่วนจริงให้เป็นค่า และ ของจริง ส่งคืนองค์ประกอบจริง ฟังก์ชัน real( ) เป็นฟังก์ชันของ ไฟล์ส่วนหัว

ในจำนวนเชิงซ้อน a+Bi นั้น Bi เป็นส่วนจินตภาพและ A คือส่วนจริงของจำนวนเชิงซ้อน

Return - ส่งกลับส่วนจริงของจำนวนเชิงซ้อนที่ระบุ

ไวยากรณ์

Template<class Y> Y
Real(constant complex<Y>& X);

พารามิเตอร์ - พารามิเตอร์ X ซึ่งแสดงถึงจำนวนเชิงซ้อนที่กำหนด

ตัวอย่าง

เอาท์พุต – จำนวนเชิงซ้อน =(14.7, 6.7)

ส่วนจริงของจำนวนเชิงซ้อน =14.7

เอาท์พุต – จำนวนเชิงซ้อน =(12, 12)

ส่วนจริงของจำนวนเชิงซ้อน =12

แนวทางสามารถติดตามได้

  • ขั้นแรก เรากำหนดจำนวนเชิงซ้อน

  • จากนั้นเราพิมพ์จำนวนเชิงซ้อน

  • จากนั้นเราพิมพ์ส่วนจริงของจำนวนเชิงซ้อน

โดยใช้วิธีการข้างต้นเราจะได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ฟังก์ชันจริงจะพิมพ์ส่วนจริงของจำนวนเชิงซ้อน ฟังก์ชันจะคืนค่าเหมือนกับการเรียก:X.real( )

อัลกอริทึม

Start-
STEP 1 – Create the main ( ) function and defines the complex number.
   complex<double> realpart(3.6, 2.4)
END
STEP 2 - Then print the real part using the real function.
   cout<< “ Real part of Complex number “<< real(realpart) << endl;
END
Stop

ตัวอย่าง

// C++ code to demonstrate the working of real( ) function
#include<iostream.h>
#include<complex.h>
Using namespace std;
int main( ){
   //defines the complex number
   Complex<defines> real_part(17.6, 4.5) ;
   cout << “ Complex Number = “<<real_part << endl;
   // prints the real part using the real function
   cout<< “ Real part of complex number =”<< real(real_part) <<endl;
   return 0;
}

ผลลัพธ์

หากเรารันโค้ดด้านบน มันจะสร้างผลลัพธ์ต่อไปนี้

Output – Complex Number = (17.6, 4.5)
   Real part of complex number = 17.6
Output – Complex Number = (14, 17)
   Real part of complex number = 14