กำหนดให้แสดงการทำงานของ cosh() สำหรับจำนวนเชิงซ้อนในภาษา C++
ฟังก์ชัน cosh() เป็นส่วนหนึ่งของไลบรารีเทมเพลตมาตรฐาน C++ มันแตกต่างจากฟังก์ชัน cosh() มาตรฐานเล็กน้อย แทนที่จะคำนวณไฮเปอร์โบลิกโคไซน์ของมุมที่เป็นเรเดียน มันจะคำนวณค่าไฮเพอร์โบลิกโคไซน์เชิงซ้อนของจำนวนเชิงซ้อน
สูตรทางคณิตศาสตร์สำหรับการคำนวณไฮเพอร์โบลิกโคไซน์เชิงซ้อนคือ −
cosh(z) =(e^(z) + e^(-z))/z
โดยที่ “z” แทนจำนวนเชิงซ้อนและ “i” หมายถึงส่วนน้อย
จำนวนเชิงซ้อนควรประกาศดังนี้ −
ซับซ้อน
ในที่นี้
ไวยากรณ์
ไวยากรณ์มีดังนี้ −
cosh(จำนวนเชิงซ้อน)
ตัวอย่าง
อินพุต:จำนวนเชิงซ้อน(5,5)เอาต์พุต:<-27.0349,-3.85115>
คำอธิบาย − ตัวอย่างต่อไปนี้แสดงวิธีที่เราใช้ฟังก์ชัน cosh() ในการคำนวณค่าไฮเพอร์โบลิกโคไซน์เชิงซ้อนของจำนวนเชิงซ้อน 5 คือส่วนจริงและอีก 5 คือส่วนจินตภาพของจำนวนเชิงซ้อนตามที่แสดงในอินพุต และเราได้รับค่าไฮเปอร์โบลิกโคไซน์ในเอาต์พุตเมื่อเราส่งจำนวนเชิงซ้อนไปยังฟังก์ชัน cosh()
แนวทางที่ใช้ในโปรแกรมด้านล่างดังนี้ −
- ขั้นแรกให้ประกาศจำนวนเชิงซ้อน สมมติว่าจำนวนเชิงซ้อน (a,b) แล้วกำหนดค่าที่ซับซ้อนให้กับมัน
-
ควรกำหนดค่าสองค่าให้กับตัวแปรจำนวนเชิงซ้อน (a,b) ค่าแรกจะเป็นส่วนจริงของจำนวนเชิงซ้อน และค่าที่สองจะเป็นส่วนจินตภาพของจำนวนเชิงซ้อน
สมมุติว่าจำนวนเชิงซ้อน(1, 3) นี่จะแทนจำนวนเชิงซ้อน 1+3i
- ส่งผ่านจำนวนเชิงซ้อน (1, 3) ที่เราสร้างลงในฟังก์ชัน cosh()
ตัวอย่าง
#include#include ใช้เนมสเปซ std;int main() { ซับซ้อน cno (1,3); ศาล< ผลลัพธ์
หากเราเรียกใช้โค้ดข้างต้น มันจะสร้างผลลัพธ์ต่อไปนี้ -
<ก่อน><-1.52764,0.165844>
1 คือส่วนจริงและ 3 คือส่วนจินตภาพของจำนวนเชิงซ้อน เมื่อเราส่งจำนวนเชิงซ้อนไปยังฟังก์ชัน cosh() เราจะได้รับค่าไฮเปอร์โบลิกโคไซน์ในผลลัพธ์ดังที่แสดงไว้