เราได้ค่าของ x และ n โดยที่ x คือมุมของ cos และ n คือจำนวนพจน์ในอนุกรม cos(x)
สำหรับ Cos(x)
Cos(x) เป็นฟังก์ชันตรีโกณมิติที่ใช้ในการคำนวณค่ามุม x
สูตร
$$\cos (x) =\displaystyle\sum\limits_{k=0}^\infty \frac{(-1)^{k}}{(2k!)}x^{2k}$$
สำหรับซีรี่ส์ Cos(x)
Cos(x) =1 – (x*2 / 2!) + (x*4 / 4!) – (x*6 / 6!) + (x*8 / 8!)……
ตัวอย่าง
Input-:x =10, n =3Output-:0.984804Input-:x =8, n =2Output-:0.990266
แนวทางที่ใช้ในโปรแกรมด้านล่างมีดังนี้ −
- ป้อนค่าของ x และ n
- ใช้สูตรคำนวณอนุกรม cos(x)
- พิมพ์ผลลัพธ์เป็นผลรวมของชุดข้อมูลทั้งหมด
อัลกอริทึม
StartStep 1 ประกาศและเริ่มต้น const double PI =3.142Step 2 In function double series_sum(double x, int n) Set x =x * (PI / 180.0)Set result =1Set s =1, fact =1, pow =1 วนรอบ สำหรับ i =1 และ i <5 และ i++ Set s =s * -1 Set fact =fact * (2 * i - 1) * (2 * i) Set pow =pow * x * x กำหนดผลลัพธ์ =ผลลัพธ์ + s * pow / fact End Loop Return resultStep 3 ในฟังก์ชัน int main() s ประกาศและตั้งค่า x =10ประกาศและตั้งค่า n =3 พิมพ์ series_sum(x, n) Stop
ตัวอย่าง
#includeconst double PI =3.142;//จะคืนค่าผลรวมของ cos(x)double series_sum(double x, int n) { x =x * (PI / 180.0); ผลลัพธ์สองเท่า =1; double s =1, ข้อเท็จจริง =1, pow =1; สำหรับ (int i =1; i <5; i++) { s =s * -1; ข้อเท็จจริง =ข้อเท็จจริง * (2 * i - 1) * (2 * i); pow =pow * x * x; ผลลัพธ์ =ผลลัพธ์ + s * pow / ข้อเท็จจริง; } ส่งคืนผลลัพธ์;}//main functionint main () { float x =10; int n =3; printf("%lf\n", series_sum(x, n)); คืนค่า 0;}