ในปัญหานี้ เราได้รับตัวเลข A, B และ N สามตัว หน้าที่ของเราคือสร้างโปรแกรมเพื่อค้นหาพจน์ที่ N หารด้วย A หรือ B ใน C++ ลงตัว
คำอธิบายปัญหา
เทอมที่ N หารด้วย A หรือ B ในที่นี้ เราจะพบเทอม n ของตัวเลขที่หารด้วยหมายเลข A หรือ B ลงตัว สำหรับสิ่งนี้ เราจะนับจนถึงตัวเลขที่ n ที่หารด้วย A หรือ B ลงตัว
มาดูตัวอย่างเพื่อทำความเข้าใจปัญหากัน
อินพุต
A =4, B =3, N =5
ผลลัพธ์
9
คำอธิบาย
พจน์ที่หารด้วย 3 และ 4 ลงตัวคือ −
3, 4, 6, 8, 9, 12, …
เทอมที่ 5 คือ 9.
แนวทางการแก้ปัญหา
ในการหาเทอมที่ n ที่หารด้วย A หรือ B ลงตัว เราสามารถหาตัวเลขที่หารด้วย A หรือ B ลงตัว และเทอมที่ n ในอนุกรมนี้คือคำตอบของเรา
ตัวอย่าง
#include<iostream> using namespace std; int findNTerm(int N, int A, int B) { int count = 0; int num = 1; while( count < N){ if(num%A == 0 || num%B == 0) count++; if(count == N) return num; num++; } return 0; } int main(){ int N = 12, A = 3, B = 4; cout<<N<<"th term divisible by "<<A<<" or "<<B<<" is "<<findNTerm(N, A, B)<<endl; }
ผลลัพธ์
12th term divisible by 3 or 4 is 24
อีกแนวทางหนึ่งในการแก้ปัญหาคือการใช้การค้นหาแบบไบนารีเพื่อค้นหาองค์ประกอบที่ N ซึ่งหารด้วย A หรือ B เราจะหาพจน์ที่ N โดยใช้สูตร−
NTerm =maxNum/A + maxNum/B + maxNum/lcm(A,B)
และจากค่าของ Nterm เราจะตรวจสอบว่าจำเป็นต้องข้ามผ่านตัวเลขที่น้อยกว่า maxNum หรือมากกว่า maxNum หรือไม่
ตัวอย่าง
#include <iostream> using namespace std; int findLCM(int a, int b) { int LCM = a, i = 2; while(LCM % b != 0) { LCM = a*i; i++; } return LCM; } int findNTerm(int N, int A, int B) { int start = 1, end = (N*A*B), mid; int LCM = findLCM(A, B); while (start < end) { mid = start + (end - start) / 2; if ( ((mid/A) + (mid/B) - (mid/LCM)) < N) start = mid + 1; else end = mid; } return start; } int main() { int N = 12, A = 3, B = 4; cout<<N<<"th term divisible by "<<A<<" or "<<B<<" is "<<findNTerm(N, A, B); }
ผลลัพธ์
12th term divisible by 3 or 4 is 24