ดัชนีราคาผู้บริโภค เป็นหนึ่งในดัชนีที่สำคัญที่สุดในการวัดอัตราเงินเฟ้อ กล่าวโดยย่อ เรียกได้ว่าเป็นเปอร์เซ็นต์ที่เพิ่มขึ้นของต้นทุนตะกร้าสินค้าในช่วงสองช่วงเวลา (โดยปกติคือปี) หากคุณต้องการ คำนวณ CPI ใน Excel และสร้างกราฟ โปรดอ่านบทความนี้
หมายเหตุ :ขณะสร้างบทความนี้ เรากำลังสมมติว่าปริมาณที่ซื้อของผลิตภัณฑ์คงที่
วิธีคำนวณ CPI ใน Excel
เพื่อคำนวณ ดัชนีราคาผู้บริโภค ระหว่างสองปีใน Excel ให้นำผลรวมของจำนวนเงินทั้งหมดที่ใช้ในตะกร้าสินค้าในช่วงสองปีนั้น จากนั้นใช้สูตรต่อไปนี้เพื่อค้นหา อัตราส่วน CPI :
=[(Cumulative price of basket of commodities in later year) - (Cumulative price of basket of commodities in earlier year)] / (Cumulative price of basket of commodities in earlier year)
เพื่อหา เปอร์เซ็นต์ CPI เพียงเลือกเซลล์ที่มี อัตราส่วน CPI และกด เปอร์เซ็นต์ สัญลักษณ์
เช่นเดียวกันสามารถทำได้ในช่วงหลายปี
เช่น. เราได้สร้างแผ่นข้อมูลที่มีราคาตะกร้าสินค้าตั้งแต่ปี 2011 ถึง 2016 รวมมูลค่าของผลิตภัณฑ์ไว้ในแถวที่ 9 ของคอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง CPI ของแต่ละปี 2555 เป็นต้นไปจะระบุไว้ในคอลัมน์ K โดยเริ่มจากเซลล์ K3
เนื่องจากราคาสรุปสำหรับปี 2011 อยู่ในเซลล์ C9 และราคาสรุปสำหรับปี 2012 อยู่ในเซลล์ D9 สูตรสำหรับอัตราส่วน CPI สำหรับปี 2012 จะกลายเป็น:
=(D9-C9)/C9
ให้เราป้อนสูตรนี้ในเซลล์ K3 ในทำนองเดียวกัน สูตรสำหรับอัตราส่วน CPI สำหรับปี 2556 จะกลายเป็น:
=(E9-D9)/D9
เช่นนี้ เราจะสร้างรายการจนกว่าเราจะได้อัตราส่วน CPI จนถึงปี 2016 อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนนี้อยู่ในรูปแบบทศนิยม ในการแปลงค่าเป็นเปอร์เซ็นต์ ให้เลือกค่าทั้งหมด แล้วกดสัญลักษณ์เปอร์เซ็นต์
สร้างกราฟสำหรับค่า CPI ใน Excel
ประเภทกราฟที่ดีที่สุดสำหรับค่า CPI คือกราฟแท่ง หากต้องการสร้าง ให้เลือกเปอร์เซ็นต์ CPI จากนั้นไปที่ แทรก> แถบ และเลือกประเภทของกราฟแท่ง
เปลี่ยนขนาดและตำแหน่งของกราฟแท่งให้เหมาะสม
กราฟที่สร้างขึ้นด้านบนมีลักษณะคงที่ หากคุณต้องการสร้างกราฟไดนามิก คุณจะต้องใช้ตารางสำหรับข้อมูล
หวังว่ามันจะช่วย!